ผู้ประกอบการร้านอาหาร ชายหาดบากันเตียง จังหวัดกระบี่ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับสถานประกอบการ ที่พักโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร บ้านเรือนประชาชน หลังปล่อยน้ำเสีย ลงสู่คลองบากันเตียง ก่อนไหลลงทะเล
ผู้ประการร้านอาหาร ที่บริเวณ หน้าชายหาดบากันเตียง ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ นำปูนขาวมาโรยใส่น้ำเสีย เพื่อลดกลิ่นเหม็น โดย ผู้ประกอบการ อ้างว่า น้ำเสียเหล่านี้ เกิดจากสถานประกอบการ ที่พักโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร บ้านเรือนประชาชน บริเวณใกล้เคียง ที่ปล่อยน้ำเสีย ลงสู่คลองบากันเตียง ก่อนไหลลงทะเลบริเวณหน้าชายหาดบากันเตียง สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวที่พักผ่อนตามชายหาดมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา โดยไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆ เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหา
นาง หวันหน๊ะ หาญกล้า อายุ 49 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหาร บริเวณชายหาดบากันเตียง เปิดเผยว่า มีน้ำเสีย สีดำ จำนวนมาก ที่ถูกปล่อยมาจาก พักโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร บ้านเรือนประชาชน โดยไม่ผ่านการบำบัด ลงคลองบากันเตียง ไหลส่งสูชายหาด บากันเตียง
โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง น้ำเสีย จะส่งกลิ่นเหม็นมาก สร้างความรำคาญ แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่มาใช้บริการ และ พักผ่อนตามชายหาด ในระยะหลังมานี้ นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเล
เนื่องจาก กังวล ว่า จะเป็นอันตราย จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กับ สถานประกอบการ ที่พัก ร้านค้า บ้านเรือนประชาชน ที่ปล่อยน้ำเสีย และ สร้างระบบบำบัดน้ำ ป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใต้ทะเล และการท่องเที่ยว เนื่องจากชายหาดบากันเตียงเป็นชายหาด ที่สวยงาม อีกแห่งหนึ่ง ของ อำเภอเกาะลันตา ซึ่ง มีนักท่องเที่ยว ให้ความนิยม มาพักผ่อน จำนวนมาก
ด้าน นาย ศุภชัย ไชยวรรณ ปลัด อบต.เกาะลันตาใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก ในพื้นที่ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ผ่านมา ได้ร่วมประชุม กับ ชาวบ้าน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่พัก ต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือ ไม่ให้ปล่อยน้ำเสียลงลงคลอง บากันเตียง ก่อนไหลลงทะเล โดยไม่ได้บำบัด เนื่องจาก จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ การท่องเที่ยวของ อำเภอเกาะลันตา โดย จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย ทั้งระบบ ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก