เกษตรกร ชาวจังหวัดพิจิตร ที่อยู่นอกเขตชลประทาน เริ่มขาดน้ำ หลังเกษตรกร หันมาปลูกข้าวโพดแทนการทำนา จำเป็นต้องสูบน้ำที่มีไม่มากจากลำคลอง เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวโพด
สถานการณ์ภัยแล้ง ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเกษตรกรที่หันมาปลูกข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อย แทน การทำนาประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจาก น้ำในคลองธรรมชาติเหลือเพียงก้นคลอง เท่านั้น
เกษตรกร ต้องนำเครื่องยนต์ ทางการเกษตรไปติดตั้ง เพื่อสูบน้ำที่เหลือก้นคลอง ซึ่ง ชาวบ้าน เรียกว่า“ขอดน้ำ” เพื่อนำน้ำขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวโพด ที่ลงทุนปลูกไว้ เพื่อรักษาข้าวโพด ที่ปลูกไว้ไม่ให้ได้รับความเสียหาย
สำหรับ การปลูกข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยเป็นพืชทางเลือกของเกษตรกร ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกนอกเขตชลประทานที่หันมาเพาะปลูก แทน การทำนา เพื่อหวังสร้างรายได้ ในช่วงที่น้ำไม่เพียงทำนา แต่จากน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีไม่เพียงพอ จึงส่งผลกระทบต่อข้าวโพดที่ปลูกเติบโตไม่สมบูรณ์
ส่วนที่ได้น้ำก็จะเจริญงอกงาม แต่ส่วนที่ขาดน้ำก็จะแคระแกรน แต่เกษตรกร ยังคงพยายามหาน้ำ เพื่อเลี้ยงข้าวโพดที่เหลืออยู่ให้รอดจากการเสียหาย เพื่อที่จะออกผลผลิตให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยว เพื่อเป็นอาหารและจำหน่ายสร้างรายได้ ในช่วงที่ยังไม่สามารถทำนาได้บ้าง