กรมการขนส่งทางบก ส่งผู้ตรวจการลงพื้นที่สุ่มตรวจรถสาธารณะ ในพื้นที่ กทม.และ ปริมณฑล พบ แท็กซี่ หมดอายุยังแอบวิ่งให้บริการ ส่วนรถตู้ พบวิ่งนอกเส้นทาง และ บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง เบื้องต้น หากหากพบทำผิดซ้ำ ต้องรับโทษสถานหนัก พักใช้-เพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้กวดขันการให้บริการรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ตามมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจจับ เปรียบเทียบปรับสูงสุดเด็ดขาดทุกกรณีความผิด ซึ่งดำเนินการมาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยจัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ สุ่มตรวจสอบการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ ที่ประชาชนนิยมใช้บริการ คือ รถแท็กซี่ รถตู้โดยสารสาธารณะ และร ถจักรยานยนต์รับจ้าง
สำหรับผลการตรวจสอบการให้บริการเดือนกุมภาพันธ์ สุ่มตรวจสอบรถโดยสารทั้ง 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 19,864 คัน พบผู้ฝ่าฝืนทำความผิดรวม 767 ราย เป็นรถแท็กซี่ กระทำความผิดจำนวน 592 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 10,653 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ ฝ่าฝืนใช้รถไม่จดทะเบียน นำรถหมดอายุมาให้บริการ และ ใช้รถไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด
ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะ พบกระทำความผิด จำนวนรวม 131 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 6,664 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ นำรถออกนอกเส้นทาง บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง
การตรวจสอบการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ พบฝ่าฝืนทำความผิดรวม 44 ราย (จากจำนวนที่สุ่มตรวจสอบทั้งสิ้น 2,547 คัน) ความผิดสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ การฝ่าฝืนนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลป้ายดำ มารับจ้างส่งผู้โดยสาร ใช้รถไม่จดทะเบียน แล ะใช้รถไม่ชำระภาษี
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลง โทษเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดเข้มงวดจริงจัง และ ผู้กระทำความผิด จะถูกส่งตัวเข้ารับการอบรม เพื่อสร้างจิตสำนึกการให้บริการและสร้างความตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อผู้โดยสารทุกคน บันทึกประวัติการกระทำผิดไว้ ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ
หากพบการกระทำความผิดในลักษณะเดิม พิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบก แนะนำให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย (ป้ายเหลือง) เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการบริการ เนื่องจากผู้ขับรถให้บริการจะเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านกระบวนการอบรมและทดสอบความสามารถในการขับขี่ได้เป็นรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะถูกต้องตามกฎหมาย
โดย หากประชาชนพบรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือ การลักลอบให้บริการผิดกฎหมายทั้งรถแท็กซี่หมดอายุการใช้งาน รถจักรยานยนต์ป้ายดำ แนะนำหลีกเลี่ยงการใช้บริการและแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก ทางสายด่วน 1584