ผู้บังคับการ ปปป. ยืนยัน นายเปรมชัย ต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาติดสินบน 14 มีนาคมนี้ ขณะที่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รัสิพราหมณกุล ยืนยัน คดีไม่ล่าช้า เสือดำไม่ตายฟรีแน่นอน เตรียมพร้อมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณา 26 มีนาคมนี้

นายการกวี สงศรี ที่ปรึกษากลุ่มเรารักชาติ รักเสือดำ พร้อมคณะ เข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อทวงถามความคืบหน้า การดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต และพวก ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี หลังเห็นว่า คดีเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมจะติดตามทวงถาม การสรุปสำนวนส่งอัยการตามที่ ตำรวจระบุ ไว้ว่า จะให้ทันก่อนวันที่ 26 มีนาคมนี้ หากไม่สามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายในวันดังกล่าวทางกลุ่มจะเดินทางมาทวงถามอีกครั้ง

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันว่า กฎหมายมีเพียงมาตรฐานเดียวเท่านั้น ไม่มีคนรวย ไม่มีจน คดีนี้ไม่เหมือนคดีทั่วไป ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงต้องรวมรวมพยานหลักฐานอื่นๆให้ครบถ้วน และ 26 มีนาคมนี้ สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้แน่นอน เสือดำต้องไม่ตายฟรี

โดยในวันนี้ ( 13 มี.ค.) จะเดินทางไปที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อตรวจสอบสำนวนคดี 9 ข้อหา ว่าครบถ้วนหรือไม่ หากครบถ้วนก็จะนำส่งพนักงานอัยการทันที

พร้อมกันนี้ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ชี้แจงกรณีสังคมโซเชียล เผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่เชิญนิติกรของกรมอุทยานฯ ออกนอกห้องสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ว่า วันนั้นพนักงานสอบสวนนัด นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก มาซักถามประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแจ้งข้อหานายเปรมชัย

ดังนั้น นิติกรจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องหรือร่วมรับฟังเนื่องจากโดยทั่วไป ถ้าจะมีนิติกรร่วมรับฟัง ก็ต่อเมื่อตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหา หรือเด็กเท่านั้น แต่นายวิเชียรไม่ใช่ผู้ต้องหา มาให้ปากคำในฐานะผู้ร้องกล่าวโทษนายเปรมชัย จึงไม่จำเป็นต้องมีนิติกร

ส่วนวันที่14 มีนาคม พนักงานสอบสวนได้เรียก นายเปรมชัยให้มารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องอาวุธปืน ครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย และพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน เชื่อว่าคดีทั้งหมด อัยการจะสั่งฟ้องทุกข้อหาเช่นกัน สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ส่วนกรณีที่สังคมเกรงว่า นายเปรมชัยจะหลบหนีนั้น เห็นว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่ถึงชั้นฎีกา เชื่อว่า ไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนี

ด้านพลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยถึง กรณีที่ร่วมตรวจพยานหลักฐานกับหน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าฯ ว่า มีการประสานงานกันโดยตลอด ไม่มีความขัดแย้งกัน ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอบนเขียง และมีด ที่ไม่ตรงกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เนื่องจากมีการตรวจเพิ่มเติมหลายครั้ง ประกอบกับตัวอย่างดีเอ็นเอมีน้อย ทำให้ตรวจไม่พบ

ส่วนการจำลองวิถีกระสุนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่สามารถนำมารวมในสำนวนได้ เพราะไม่ได้ทำตามหลักวิชาการ ที่จะต้องอธิบายวิถีกระสุน รวมทั้งการยิงจากปืนกระบอกใด แต่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็ได้ทำไว้หมดแล้ว

ส่วนพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า นายเปรมชัย ได้เดินทางกลับเข้าประเทศแล้ว ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ด้วยเครื่องบินส่วนตัว
การออกนอกประเทศก็อยู่ในเงื่อนไขของศาล เพราะศาลไม่ได้ห้าม เป็นอำนาจของศาลไปก้าวล่วงไม่ได้

ส่วนเรื่องสำนวนคดี พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ก็ดำเนินการอยู่ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านงานสืบสวนสอบสวน

ขณะที่ พลตำรวจตรี กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เปิดเผยหลังประชุมคดีนายเปรมชัย ติดสินบนเจ้าหน้าที่ว่า

ขณะนี้ได้ข้อสรุปตือ ต้องมีการสอบปากคำ นายวิเชียรเพิ่มเติมในประเด็นของการติดสินบนให้มีความชัดเจนว่า สินบนนั้นคืออะไร และต้องสอบพยานอีก 1 ปาก คือ บุคคลในที่เกิดเหตุ ซึ่งอัดคลิปพูดคุยกับอีกคนเพื่อหาความเชื่อมโยง และให้ครบองค์ประกอบของกฎหมาย

โดยในวันนี้ (13 มี.ค.) พนักงานสอบสวน จะเดินทางไป จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสอบปากคำนายวิเชียรและเจ้าหน้าที่ให้เสร็จสิ้น ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานกับนายเปรมชัยต่อไป

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ปปป. ไม่อนุญาตให้ นายเปรมชัย เลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาติดสินบน ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ซึ่งได้รับการยืนยันกับทนายความแล้วว่า นายเปรมชัย จะเดินทางมา ที่ กองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) อย่างแน่นอน ในเวลา 10 นาฬิกา

ส่วนที่จังหวัดกาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ พร้อมด้วย นายวิเชียร นายปิยะพงษ์ สืบเสน ผู้ช่วยหัวหน้าเขตทุ่งใหญ่นเรศวร และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยมหาราช หน่วยทินวย เข้าพบ ตำรวจทองผาภูมิ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง

ขณะที่สำนักงานอัยการ จังหวัดทองผาภูมิ นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยสถาน เพื่อเตรียมพร้อม รับสำนวนคดีนายเปรมชัย ที่คาดว่า ตำรวจจะนำมาส่งมอบในวันนี้ ( 13 มี.ค.)

หากสำนวนส่งมาถึง อัยการจะรับมาตรวจสอบ พร้อมแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม

ด้านพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า เวลานี้ข้อมูลสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้องส่งให้อัยการดำเนินการไม่เกินวันที่ 26 มีนาคมนี้แน่นอน

ส่วนเรื่องพิสูจน์หลักฐานวัตถุพยานต่างๆ ที่เก็บมา 2 ส่วน ทั้งที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯเก็บมาตั้งแต่แรก และที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปรวบรวมเพิ่มในตอนหลัง มีการตรวจพิสูจน์เรียบร้อยหมดแล้วเช่นกัน

ยืนยัน หลักฐานที่มีอยู่จากวันแรก ไม่มีอะไรเบี่ยงเบนคดีได้ มีแต่แน่นหนามากยิ่งขึ้น และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร อีกทั้งที่ผ่านมา พลตำรวจเอกศรีวราห์ เคยมาช่วยทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ทำคดี ประสบความสำเร็จมาหลายคดีแล้ว และตนเอง ไม่ได้ให้ความสำคัญว่า คดีนี้ใครจะทำ แต่คิดเพียงอย่างเดียวว่า คือ คนที่ทำผิดจะต้องถูกลงโทษ

สำหรับเรื่องอื่นๆ ที่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีอื่นๆ อีก 5 ข้อหากับนายเปรมชัยอีก ทั้งการครอบครองงาช้างแอฟริกา คดีอาวุธปืน คดีบุกรุกพื้นที่ป่า คดีบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่นั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อไป

ส่วนพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกถึงกรณีที่มีเสียง วิพากษ์วิจารณ์ ข้อมูลการสอบสวนของกรมอุทยานฯ และตำรวจในคดีนายเปรมชัย ที่สังคมเกิดความสงสัยว่า ต้องให้คนที่ทำงานได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไร ยังไม่รู้ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องหาพยานหลักฐานต่างๆ ให้ชัดเจน เชื่อว่าทุกฝ่ายตั้งใจทำอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องของความไม่โปร่งใส ไม่มีปัญหาอะไร ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานไป คนนอกจะพูดอะไร ก็พูด แต่คนในมีพยานหลักฐานต่างๆอยู่ กว่ากันไปตามหลักฐาน ไม่มีใครไปทำนอกลู่นอกรอยได้

ส่วนกรณีที่ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ จะฟ้องร้องผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์จนเกินเลยไปได้หรือไม่นั้น พลเอกประวิตรบอกว่า ตนเองไม่ทราบ ต้องไปดูข้อกฎหมาย

ปปป. ย้ำ "เปรมชัย" ต้องรับทราบข้อหาติดสินบน 14 มี.ค.นี้