“กรมศุลกากร” แจงประเด็นชาวเน็ตโวย โดนเรียกภาษีคนที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนม 2 หมื่น พบเป็นกระเป๋าใหม่ ที่มีราคาสูง และนำติดตัว เข้ามาในราชอาณาจักร จึงต้องชำระค่าภาษีอากรตามหลักเกณฑ์

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับกรณี กรมศุลกากร ได้เรียกเก็บภาษีอากร กับ กระเป๋าที่ผู้โพสต์ ซื้อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา แล้วใช้ถือก่อนจะเดินทางออกนอกประเทศ กระทั่งถือกลับมาประเทศไทย เป็นของใช้ส่วนตัว ถูกศุลกากรให้เรียกตรวจผ่านระบบโฮโลแกรม แล้วให้จ่ายเงินภาษีอากร 2 หมื่นบาท โดยอ้างว่า เป็นของใหม่ ต้องจ่ายภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็น ทั้งที่ผู้โพสต์สะพายประจำ ไม่ใช่ใส่ในกระเป๋าเดินทาง

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กของ “กรมศุลกากร" ได้ออกมาชีแจงถึงกรณีดังกล่าวผ่านเพจ โดยระบุข้อความว่า

เรื่องดังกล่าวทาง กรมศุลกากร ตรวจสอบแล้ว พบว่า กระเป๋าใบดังกล่าว เป็นกระเป๋าใบใหม่ ที่เพิ่งซื้อมา ราคาเกิน 2 หมื่นบาท ตามที่ประกาศกฎหมายกำหนด จึงต้องเสียภาษีอากร

จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่า หญิงสาวที่โพสต์ เดินทางจากฮ่องกง ถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจ พบว่า ผู้โดยสารมีกระเป๋าแบรนด์แยม ยี่ห้อดัง สภาพใหม่ และเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่า มีซีลพลาสติกใสปิดที่โลโก้ จึงขอเปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อตรวจสอบ

จากการเปิดตรวจพบ เป็นกล่องกระเป๋าแบรนด์เนม ยี่ห้อดังสภาพใหม่ และเสื้อคลุมแบรนด์ดัง เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหมายเลขของกระเป๋าที่ประทับบนโลโก้ด้านใน

เจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงได้สอบถามการได้มาเกี่ยวกับกระเป๋าดังกล่าว ผู้โดยสารแจ้งว่า เป็นของขวัญที่ได้รับจากเพื่อนชายต่างประเทศ ไม่มีใบเสร็จรับเงิน

เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้แจ้งผู้โดยสาร ว่า ต้องเสียภาษีอากร เพราะมีราคาเกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งขณะนั้น ผู้โดยสารไม่ปฏิเสธ และ ยินดีชำระค่าภาษีอากรตามที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว กระเป๋าของผู้โดยสาร ไม่ได้เป็นของที่นำไปจากเมืองไทยแล้วนำกลับเข้ามา แต่เป็นของใหม่ที่มีราคาสูง และ นำติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักร จึงเป็นตามหลักเกณฑ์ที่ต้องชำระค่าภาษีอากร

“ศุลกากร” แจงกรณีดรามาเก็บภาษีกระเป๋าแบรนด์เนม