เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟ เข้าดับไฟไหม้ป่า ริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขณะค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน พุ่งสูงเฉลี่ย 119.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวอำเภอวังทอง และ ใกล้เคียง หลังจากหมอกควันไฟปกคลุมสะสมในพื้นที่เขตอำเภอวังทอง ทำให้ ผู้ที่ใช้ ถนนหลวงหมายเลข 12 ต้องเพิ่มความระวัดระวัง ขณะที่เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 3 ที่อยู่ต่างอำเภอ และ ห่างไกลออกไปมากกว่า 24 กิโลเมตร สามารถตรวจวัดค่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ต่ำกว่า 10 ไมครอน หรือค่า PM 10 เฉลี่ย 119.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร์ ใกล้ถึงค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน (21 มี.ค.2561) นายสิทธิพงษ์ ภิเษก ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือที่ 3 นำ เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟ ระดมกำลังช่วยกันดับไฟไหม้ป่าริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้จากริมถนนเข้าไปในพื้นที่ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา จนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณ กว้าง

นายสิทธิพงษ์ บอกว่า ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่า บริเวณนี้ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ

ส่วนที่จังหวัดลำปาง กำลังเจ้าหน้าที่ ดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง และ จังหวัดต่างๆ ที่ระดมกำลังเข้ามาดับไฟไหม้ป่าในพื้นที่แนวเขต ดอยพระบาท ฝั่งอำเภอเมืองลำปาง ฝั่งอำเภอแม่เมาะและฝั่งอำเภอแม่ทะ เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 7 ชุด ประจำการ และ เดินทางเข้าไปดับไฟป่าพร้อมๆ กันโดยใช้ระบบ GPS ให้แต่ละชุดดำเนินการไปตามจุดที่ได้รับแจ้ง

โดยพบว่าไฟไหม้แต่ละจุดนั้นรุนแรงอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหนีไฟอย่างชุลมุน

ขณะที่ บริเวณสันดอยพระบาท ตำบลบ้านเสด็จ พบว่า ได้เกิดไฟลุกไหม้ป่าอย่างรุนแรง แม้ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำเครื่องพ่นลม และไม้ตบไฟเข้าทำการดับแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมไฟที่ลุกไหม้ได้ เพราะสภาพพื้นที่มีกองหญ้าแห้งทับถมกันจำนวนมาก ประกอบกับมีลมพัดอย่างรุนแรงตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องถอนกำลังมาตั้งรับทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ป่าลุกลามออกไปอีก

สำหรับภาพรวม ทั้งจังหวัดลำปาง พบมีการแจ้งเหตุไฟไหม้ป่า 27 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 473 ไร่

ส่วนที่ จังหวัดแพร่ สถานการณ์ไฟไหม้ป่า ทั้งในเขตอำเภอเมืองแพร่ อำเภอเด่นชัย อำเภอลอง ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลนาจักร อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือ PM10 ของวานนี้ (21 มี.ค.61) เวลา 10.00 น. วัดได้ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินกว่าค่ามาตรฐานกำหนด คือเกินกว่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ฟุ้งกระจายครอบคลุมอยู่ในชั้นบรรยากาศครอบคลุมในพื้นที่ โดยเฉพาะถนนที่มองเห็นชัดเจนว่า กลุ่มควันฝุ่นละอองหนาแน่น

เกิดหมอกควัน-ไฟป่ารุนแรงในหลายพื้นที่