ตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ตำรวจรถไฟ ตรวจเข้มผู้โดยสารและ สัมภาระ เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดจากทางภาคเหนือ ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์

ชุดสืบสวนหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ตำรวจรถไฟ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำสุนัขตรวจค้นยาเสพติด ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ ตาม นโยบายของรัฐบาล และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้มีการตรวจอย่างเข้มข้น เนื่องจากจะมีการขนย้ายยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ลงมายังภาคกลาง โดยใช้เสินทางต่างๆ ทั้งเส้นทางรถประจำทาง และ รถไฟโดยสาร

เพื่อเป็นการตรวจเข้มและเป็นการปราบปรามล่วงหน้า มีการตรวจค้น บนขบวนรถไฟ รถตู้โดยสาร และ รถสาธารณะทุกชนิด โดยนำสุนัขตำรวจร่วมตรวจค้น ดมกลิ่นยาเสพติด บริเวณ ผู้โดยสารและคนขับรถ

สำหรับ การตรวจเข้ม บริเวณสถานีรถไฟอยุธยา และ สิ่งของของผู้โดยสาร ที่ขนย้ายมาลงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง บนรถไฟ นั้น จะดำเนินการทุกวัน

การปราบปรามครั้งนี้ เป็นนโยบายของภาครัฐ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมมือกับตำรวจรถไฟ และ นำสุนัขออกตรวจดมกลิ่นทุกครั้ง เพื่อป้องกันยาเสพติ เข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ผ่านเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ส่วนที่ จังหวัดนครพนม ตำรวจ กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเรือนจำกลางนครพนม เพื่อเพิ่มมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบ ป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติดภายในเรือนจำ รวมถึงการกระทำผิดกฎหมาย ตามมาตรการปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก โดยมีการตรวจสอบ ที่พักของผู้ต้องขังในแดนขังต่างๆ พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด ป้องกันการแพร่ระบาด หรือ ฉวยโอกาสลักลอบ นำยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ จากการตรวจค้นไม่พบ ยาเสพติดหรือ สิ่งผิดกฎหมาย แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ไม่พบปัญหา เรื่อง การแพร่ระบาดของยาเสพติด แต่ยังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วง คือ จากสถิติยอดผู้ต้องขัง ปัจจุบันมีทั้งหมด 3,966 คน แยกเป็นชาย จำนวน 3,375 คน หญิง จำนวน 591 คน ซึ่งในจำนวนทั้งหมด พบว่า เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดมากกว่า 80 - 90 เปอร์เซ็นต์

เนื่องจาก จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ จังหวัดชายแดน ทำให้มีการจับกุมดำเนินคดียาเสพติดจำนวนมาก ถือเป็นตัวชี้วัดของปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และ เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะได้หาทางป้องกันแก้ไข เพราะปัจจุบัน มีสถิติยอดผู้กระทำผิดโทษคดียาเสพติดมากขึ้นทุกปี จึงต้องมีการเพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันปราบปรามมากขึ้น เพื่อเป็นการตัดวงจร ตั้งแต่ผู้เสพไปถึงผู้ค้า