ชาวบ้านริมถนนทางหลวงสายเพชรเกษม – บ้านยางชุม บริเวณสามแยกหนองหมู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หลังผู้รับเหมาเข้าปรับปรุงถนน แต่กลับปิดท่อระบายน้ำ ทำให้เมื่อฝนตกหนัก-น้ำท่วมบ้านเสียหาย

นายอำนาจ ไหลล้น ผู้ใหญ่บ้านหนองหมู หมู่ 7 ตำบลกุยบุรี พร้อมด้วยจ่าสิบเอกสมพร หงส์ทอง หัวหน้าชุดรักษาความสงบ อำเภอกุยบุรี นำกองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่อำเภอกุยบุรี พร้อม เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกุยบุรี ร่วมกันตรวจสอบถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3217 สายเพชรเกษม – บ้านยางชุม บริเวณสามแยกหนองหมู หลังเกิดน้ำท่วมถนน และบ้านเรือนประชาชน จนได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบ พบว่า ก่อนเกิดเหตุเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้บริเวณสามแยกบ้านหนองหมู มีน้ำท่วมพื้นผิวถนน ในช่องทางฝั่งขาเข้าไปยังบ้านยางชุม และยังไหลเข้าท่วมบ้านของนางทองสุข ธรรมรงค์แสง อายุ 55 ปี ที่อยู่ใกล้กัน จนสิ่งของภายในบ้านเสียหาย ซึ่งทหารได้เข้าช่วยกันยกขึ้นจากน้ำเอาไว้บนที่สูง

นางทองสุข เล่าว่า ตนเองอยู่บ้านนี้มานานเกือบ 55 ปีแล้ว ที่บ้านน้ำไม่เคยท่วม แต่มาปีนี้ เกิดมีน้ำท่วมไหลเข้าบ้านจนข้าวของในบ้านเสียหาย ทั้งๆที่ฝนตกลงมาไม่นาน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เนื่องมาจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้รับเหมาเข้ามาต่อเติมพื้นผิวถนน จากแยกหนองหมูเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งผู้รับเหมาได้ขุดฝังกลบท่อระบายน้ำของเดิมจนหมดสิ้น

โดยตนเองเคยถามผู้รับเหมาว่า ทำไมต้องปิดปากท่อ ไม่ต้องปิดได้ไหม ทางผู้รับเหมา ก็บอกว่า ไม่ได้ และเมื่อถามว่า หากมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังจะทำอย่างไร ทางนั้นก็บอกให้ไปติดต่อทางเทศบาลเอาเอง

ด้านนายอำนาจ ไหลล้น ผู้ใหญ่บ้านหนองหมู บอกว่า บริเวณทางแยกเดิม เคยมีท่อน้ำไหลจากฝั่งทิศใต้ไปทางทิศเหนือ แล้วไหลลอดถนนเพชรเกษมไปทางทิศตะวันออก เมื่อผู้รับเหมามาทำถนนก็ทำการขุดดินปิดปากท่อบริเวณทางทิศใต้จนหมด

ตนเองเคยบอกทางผู้รับเหมาว่า อย่ากลบปิดปากท่อ เพราะน้ำจะไม่มีที่ระบาย ซึ่งทางผู้รับเหมา ก็ไม่ยอมทำตามแต่อย่างใด ตนเองจึงไปบอกกับเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง ที่มาดูแล แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด กระทั่งมีเกิดฝนตกน้ำท่วมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงพยายามให้คนงานมาขุดลอกให้น้ำไหลไปตามไหล่ถนนเพชรเกษมด้านทิศใต้ แต่ก็ยังไม่สามารถระบายได้

ขณะที่จ่าสิบเอก สมพร หงส์ทอง หัวหน้าชุดรักษาความสงบ อำเภอกุยบุรี ได้แนะนำให้ชาวบ้านเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรม อำเภอกุยบุรี เพื่อแจ้งร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้รับเหมามาดำเนินการแก้ไขถนนให้ดีขึ้น และรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น

สำหรับการปรับปรุงถนนเส้นดังกล่าว เป็นการขยายผิวถนนบริเวณทางแยกให้เป็นถนน 4 เลนยาวประมาณ 100 เมตร ต่อจากนั้นเป็นการขยายไหล่ทางให้กว้างข้างละ 1.50 เมตร ระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยตัวถนนหลักยังเป็นของเดิม ด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท