แม่น้องบีม เด็กหญิงที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการ ซ้ำยังถูกทนายความโกงเงินเยียวยาอีก 5 ล้านบาท ทวงถามผู้ใหญ่ในสภาทนายความ หลังเคยรับปากจะให้ความช่วยเหลือจนถึงที่สุด แต่เมื่อสอบถามความคืบหน้าคดีกลับไม่ได้รับคำตอบ ยอมรับ กังวลว่า จะไม่ได้รับเงินเยียวยา
นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ของเด็กหญิงภัทรดา แก้วผ่องหรือ น้องบีม ที่ประสบอุบัติเหตุรถบรรทุกชนจนทำให้พิการ ตั้งใจชงเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังคดีที่ถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ อดีตทนายความที่โกงเงินไป 5 ล้านบาท ซึ่งสภาพทนายความ เข้ามาช่วยเหลือและรับปากช่วยสู้คดีอย่างถึงที่สุด ยังไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับการจ่ายเงินเยียวยา และกลัวว่า ทั้งคดีแพ่ง และอาญา จะไม่คืบหน้า และอาจต้องรอไปอีกหลายปี
นางสาวพรทิพย์ เปิดใจว่า ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา พยายามติดตามความคืบหน้าคดีนี้มาโดยตลอด แต่ไม่เคยได้รับข้อมูลจากทนายความที่สภาทนายส่งมาช่วยเหลือ ว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหน ไม่เคยเรียกตนเองและลูกไปซ้อมให้การกับศาล และทุกครั้งที่ศาลนัดพบตนเองจะรู้ล่วงหน้าเพียง 1-2 วัน ซึ่งแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว ทำให้ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจว่า คนของสภาทนายความเข้ามาว่าความให้ด้วยความเต็มใจ หรือเพียงแค่ทำตามหน้าที่ พร้อมยอมรับว่า เงินเยียวยา คือ ความหวังเดียวของตนเองกับลูก เพราะต้องการนำเงินก้อนนี้ไปตั้งหลักซื้อบ้าน เพราะทุกวันนี้ เฉพาะค่าแพทเพิล ของใช้ส่วนตัวของน้องบีม และลงทุนซื้อเมล็ดกาแฟของใช้ในร้าน ก็ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ซึ่งรายได้ที่มีพอดีกับค่าใช้จ่ายจนไม่เหลือเก็บ
สำหรับน้องบีมได้รับความช่วยเหลือจากนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2560 ในการดำเนินคดีกับอดีตทนายความที่ ยักยอกเงินชดเชยของน้องบีมไป 5 ล้านบาท
ขณะที่ว่าที่พันตรีสมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกสภาทนายความฝ่ายบริหารและประธานกรรมการสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา เคยรับปากกับน้องบีมว่าจะจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งทั้ง 2 คน จะเข้าให้การกับศาลแพ่งอีกครั้งในวันที่ 23 เมษายนนี้