ประธานสนช. เตรียมเซ็นตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีคลิปหลุดอ้างนายกฯสั่งสนช.ล้มผู้สมัครกสทช.14 คน ขณะที่วิปสนช.มั่นใจเป็นคลิปตัดต่อ 100 % ย้ำนายกฯ ไม่เคยสั่งสนช.คว่ำกสทช.

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดผยว่า ตนจะเซ็นตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เม.ย.นี้ กรณีมีคลิปหลุดที่มีการอ้างคำพูดนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับรายชื่อผู้สมัคร กสทช.ทั้ง 14 คน จนสุดท้ายสนช.มีมติคว่ำสนช.ผู้สมัครกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งหมด 

เบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน โดยจะสอบใน 2 ประเด็น คือ 1.การเผยแพร่คลิปในสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีข้อความพาดพิงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการสรรหา กสทช.ว่ามีจริงหรือไม่ เป็นคลิปเสียงจริงหรือมีการตัดต่อเพื่อใส่ร้ายหรือไม่ และคลิปมาจากไหน โดยจะต้อง เรียกบุคคลที่นำคลิปมาเผยแพร่มาสอบหาข้อเท็จจริง 

และ2.กรณีมีการเผยแพร่รายงานในสื่อ เกี่ยวกับข้อประชุมลับในการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน มีการรายงานอ้างพาดพิงประธานศาลฎีกา ทั้งที่เป็นการประชุมลับนั้น ก็ต้องเรียกผู้เกี่ยวข้อมาชี้แจงและหาข้อเท็จจริง 

นายพรเพชร กล่าวว่า การตั้งกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเอาผิดบุคคลใดเป็นหลัก แต่เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย หากพบผู้กระทำผิดจะต้องตั้งกรรมาธิการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการต่อไป 

ด้านนายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิปสนช.กล่าวยืนยันว่า คลิปที่หลุดออกมาไม่ใช่การประชุมวิปสนช. 100% เพราะตนอยู่ในที่ประชุมวิปสนช.ตลอด และไม่มีการคุยเรื่องนี้ รวมทั้งไม่น่าจะใช่การประชุมคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมด้วย เพราะตนก็เป็นกรรมาธิการชุดดังกล่าว แต่ไม่เคยได้ยินว่า มีการพูดคุยกันตามเนื้อหาในคลิป เท่าที่ฟัง จึงมั่นใจว่า น่าจะเป็นคลิปตัดต่อ เพราะดูแล้วเสียงกระโดด เหมือนนำเสียงในการประชุมวงต่างๆมาตัดต่อรวมกัน 

นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาในคลิปที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่แฮปปี้กับรายชื่อ14 ผู้สมัครกสทช.นั้น เชื่อว่า ไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯ สั่งสนช.ไม่ได้ และนายกฯไม่เคยสั่งสนช. ซึ่งผู้ได้รับการเสนอชื่อ 8 คนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติไม่ถูกต้อง สนช.จึงโหวตไม่เลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 14 คน เพราะเรื่องกสทช.เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายแสนล้านบาท จึงมั่นใจว่า คลิปหลุดดังกล่าวเป็นการแอบอ้างแน่นอน คงไม่ใช่ฝีมือของสนช.ปล่อยคลิปแทงกันข้างหลังแน่นอน 

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีสนช.มีมติไม่เลือกผู้สมัครกสทช.รวมไปถึงการไม่เลือกผู้ตรวจการแผ่นดิน และก่อนหน้านี้ ก็ล้มเลิกการสรรหากรรมการเลือกตั้ง (กกต.) อีก ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ สนช.ต้องทบทวน และกลับไปพิจารณาขบวนการสรรหา โดยเฉพาะการกลั่นกรองข้อมูล คุณสมบัติของผู้สมัครให้ครบถ้วนหรือไม่อย่างไร เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก และหากเกิดความล้มเหลวหลายครั้งก็ควรมีการออกมารับผิดชอบ ส่วนเรื่องคลิปเสียงนั้น ทาง สนช.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ 

ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรี อาจใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อกด้านคุณสมบัติของผู้สมัคร กสทช. เพื่อแก้ปัญหา และทำให้สามารถสรรหากรรมการ กสทช.ชุดใหม่ได้ทันตามกำหนด เพื่อดำเนินงานที่คั่งค้างต่อไปได้