เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ โดยที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พายุพัดต้นไม้ล้มทับบ้านเรือน ร้านค้าพังเสียหาย ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
นางเสาวนีย์ ทับประภา ชาวบ้านในอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังเร่งเก็บกวาดซากความเสียหาย หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านและร้านค้าเมื่อวานนี้
นางเสาวนีย์ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุไม่มีท่าทีที่จะมีฝนตกลงมา แต่จู่ๆก็มีลมและฟ้าครึ้ม จากนั้นลมก็พัดหมุนแรงมาก จนต้นไม้ล้มลงมาทับบ้านและร้านค้าตนทันที ซึ่งร้านค้าตนเพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อ 3 วันที่แล้ว เพื่อใช้ขายของหน้าบ้าน และไม่มีเงินซ่อมแซมอีกแล้ว ตอนนี้ต้องไปอาศัยที่ห้องพักญาติชั่วคราว
ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยถึงกรณีเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่ ว่าขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูร้อนซึ่งทีมปฏิบัติการยับยั้งสลายลูกเห็บ จะวางแผนบินปฏิบัติการทันที โดยยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดน์ ให้ลูกเห็บสลายเป็นเม็ดฝนตกลงมาแทนที่
อย่างไรก็ตาม การบินปฏิบัติการ ไม่สามารถปฏิบัติการได้ทุกพื้นที่ ด้วยข้อจำกัดเรื่องของจำนวนเครื่องบิน จึงต้องแจ้งเตือนไปพื้นที่เสี่ยงด้วย โดยการกระจายข่าวไปยังประชาชนให้รับทราบ และเตรียมการป้องกันได้ทันท่วงที
และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้แพทย์ต้องออกมาเตือนประชาชนระวังป่วยเป็นโรคลมแดด เพราะร่างกายมนุษย์มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส หากเผชิญกับอากาศที่ร้อนกว่านี้ ร่างกายจะไม่สามารถปรับลดอุณหภูมิได้ จะทำให้เกิดโรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบสมองได้
โดยอาการของโรค คือ จะตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ เกินกว่า 40 องศาเซลเซียส หายใจเร็ว ไม่มีเหงื่อออก อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ความดันต่ำ มึนงง ชักเกร็ง และหมดสติ
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคลมแดด ประกอบด้วย ผู้ที่ทำงาน หรือทำกิจกรรมกลางแดด
สำหรับการป้องกันไม่ให้เป็นโรคลมแดด คือ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด หากจำเป็นให้กางร่ม หรือใส่หมวก ดื่มน้ำเปล่ามากๆ