"หมอแสง" ระบุ ผลวิจัยสมุนไพรรักษามะเร็ง ควรออกมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ไม่ใช่แพทย์สมัยใหม่ หลังสถาบันมะเร็งแห่งชาติชี้ ยาหมอแสงไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้
ผู้ป่วยมะเร็งและญาติ ยังเดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอรับสมุนไพร จากนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง
จากการสอบถามผู้ป่วยทุกรายยืนยันว่า กินสมุนไพรของหมอแสงชัยแล้วดีขึ้น และเมื่อไปตรวจหาค่ามะเร็งแล้วลดลง โดยบอกว่า ไม่สนใจผลวิจัยว่า สมุนไพรดังกล่าว จะฆ่ามะเร็งได้หรือไม่ก็ตาม
หนึ่งในผู้มาขอรับยา คือนายอรรถพล เพียรวรรณวณิช ชาวกรุงเทพฯ ยืนยันว่า ลูกสาวของตนเองเป็นแพทย์หญิง ที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้และมดลูก อาการหนัก เมื่อมารับสมุนไพรจากหมอแสง พบว่า อาการป่วยดีขึ้น ทำให้ลูกสาวยอมรับว่า ยาของหมอแสงดี
แต่ข้อมูลดังกล่าว ขัดแย้งกับผลวิจัยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ที่ระบุว่า เมื่อนำสมุนไพรของหมอแสง ไปทดลองในหลอดทดลองของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กับเซลล์มะเร็ง 5 ชนิด คือ มะเร็งเต้านม / มะเร็งตับ / มะเร็งปอด / มะเร็งลำไส้ และมะเร็งกระเพาะอาหาร พบว่า ไม่สามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
ซึ่งหมอแสง มองว่า ผลวิจัยควรออกมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร คือ แพทย์แผนไทย ไม่ใช่แพทย์สมัยใหม่ ที่อาจยังไม่ยอมรับความรู้ด้านสมุนไพร และมองว่า ไม่ควรนำสมุนไพรไปเทียบกับสารเคมี ซึ่งก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน
หมอแสง ยังระบุว่า หากยังมีปัญหามาก ก็จะแจกยาสมุนไพรถึงเสาร์แรกของเดือนพฤษภาคมเท่านั้น จากนั้น หากใครต้องการได้ยา ก็ขอให้ทำหนังสือถึงสถาบันมะเร็งฯ หรืออธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แทน ซึ่งหากได้ยอดเท่าใดตนก็จะแจกเท่านั้น