ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ป้อมมหากาฬ หลังจากเมื่อวานนี้ (25เม.ย.) เป็นสุดท้าย ที่กำหนดให้ชาวบ้านต้องย้ายออกจากพื้นที่ โดยคาดว่า จะรื้อย้ายบ้านเสร็จสิ้นภายในวันที่ 29 เม.ย. พร้อมเร่งปรับปรุงพื้นท ี่ให้เป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจ คาดเปิดใช้ช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้
วานนี้ (25เม.ย.) พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบ ร้อยแนวทางการพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ ซึ่งเมื่อวานนี้ (25เม.ย.) เป็นวันสุดท้าย ที่กำหนดให้ชาวชุมชนย้ายออกจากพื้นที่ป้อมมหากาฬ ก่อนที่ กทม. จะเข้าปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่เป็นสวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
พลตำรวจเอก อัศวิน กล่าวว่า จากแนวทางการพัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬ รวมพื้นที่กว่า 4 ไร่ เพื่อจัดทำเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนใช้งานในพื้นที่เมืองชั้นใน ซึ่งเดิมพื้นที่ดังกล่าว มีประชนอยู่อาศัย จึงต้องรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากพื้นที่
ที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมกับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน เข้าสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ป้อมมหากาฬให้ย้ายบ้านเรือนออกจากพื้นที่ เพื่อปรับปรุงให้เป็นโบราณสถานที่ รวมระยะเวลากว่า 2 ปี
ขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือย้ายออกจากพื้นที่ โดยรื้อย้ายบ้านเรือนเพื่อเปิดพื้นที่ให้ กทม.ได้เข้าทำการปรับปรุง โดยภายในวันที่ 29 เม.ย. นี้ การรื้อย้ายบ้านทั้งหมดจะเสร็จสิ้น จากนั้น กทม.จะเข้าปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะแบบชั่วคราว ปรับภูมิทัศน์ให้พื้นที่มีความสวยงาม เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เข้ามาใช้พื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย
พร้อมทั้งขยายทางเดินริมคลองจากความกว้าง 1 เมตร เป็น 2 เมตร ติดตั้งราวกันตกน้ำ นอกจากนี้จะบูรณะซ่อมแซมหลังคาและผนังของอาคารพระยาญาณประกาศ ซึ่งเป็นอาคารเก่าในพื้นที่ เพื่อให้มีความมั่นคงแข็งแรงและสวยงาม
ทั้งนี้ กทม. ได้จัดสรรงบประมาณ 69 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงป้อมมหากาฬและกำแพงเมืองเก่าก่อน เนื่องจากขณะนี้ตัวป้อมมีแนวโน้มว่าจะทรุด จึงต้องเร่งบูรณะความมั่นคงแข็งแรงและปรับปรุงพื้นที่ชั่วคราวปลูกหญ้าและปลูกต้นไม้ ก่อนจะปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบต่อไป
พลตำรวจเอก อัศวิน กล่าวด้วยว่า การปรับปรุงพื้นที่แบบชั่วคราว กทม. จะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 เดือน คาดว่า จะเปิดให้ประชาชนใช้สวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้
ซึ่งเมื่อเปิดพื้นที่ ให้ประชาชนใช้งาน กทม. โดยสำนักงานเขตพระนคร จะจัดเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดและดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งกำหนด เวลาเปิด-ปิดพื้นที่ดังกล่าว เพื่อไม่ให้ใช้พื้นที่อย่างไม่เหมาะสม หรือกลายเป็นที่พักอาศัยของบุคคลบางกลุ่มโดยเด็ดขาด