แฉเล่ห์กลหอพัก รับมือกฎหมายใหม่ประกาศคุมค่าน้ำ-ค่าไฟ เร่ิมประกาศขอขึ้นค่าส่วนกลาง ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายเผยเตรียมปรับขึ้นค่าเช่า
1 พฤษภาคม เป็นวันดีเดย์ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ประกาศใช้กฎหมายควบคุมหอพัก โดยเฉพาะเรื่องการเก็บค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ให้เก็บตามอัตราจริง เท่ากับที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป รวมทั้งห้ามเก็บเงินประกัน และค่าเช่าล่วงหน้าเกิน 1 เดือน
ทำให้ผู้เช่าหอพัก ส่งเสียงเฮ เพราะเชื่อว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แต่ล่าสุดเริ่มมีกระแสดราม่า หลังผู้เช่าจำนวนมากออกมาแฉเล่ห์เหลี่ยมเจ้าของหอพักบางราย ที่เริ่มมีกลวิธี หันไปเรียกเก็บค่าบริการอย่างอื่นเพิ่มเติมแทน ทั้งค่าส่วนกลาง ค่าบำรุง ค่าเช่าเฟอร์นิเจอร์ หรือค่าจิปาถะอื่นๆ
นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายในการเช่าหอพักค่อนข้างสูง โดยเฉพาะค่าน้ำ จะคิดระบบเหมาจ่ายคนละ 150 บาท ส่วนค่าไฟคิดยูนิตละ 8 บาท แต่หลังจากมีประกาศ ก็ไม่มั่นใจว่าจะช่วยลดค่าเช่าหอลงได้จริงหรือไม่ เพราะเชื่อว่าเจ้าของหอจะหันไปเก็บค่าใช้จ่ายอื่นแทน
เช่นเดียวกับ ผู้เช่าหอพัก ใน จ.ขอนแก่น บอกว่า มาตรการนี้จะช่วยลดรายจ่ายได้เท่าตัว แต่ในข้อกฎหมายดังกล่าวไม่มีข้อบังคับว่าห้ามเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่ม จึงยังไม่มั่นใจ ดังนั้นก็ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ เข้มงวดตรวจสอบเข้มงวดด้วย
เช่นเดียวกับผู้เช่าในหอพักในเมืองกรุง ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยพร้อมมองว่ามาตรการดังกล่าวควรบังคับใช้กับหอพักบางแห่งเท่านั้นที่มีการเก็บค่าล่วงหน้าเกินกว่า 2 เดือน และค่าน้ำค่าไฟแพงเกินไป เพราะบางแห่งก็ทำถูกต้อง
เช่นเดียวกับ เจ้าของหอพักหลายๆ คนบอกว่า การที่ต้องเก็บค่าน้ำค่าไฟที่เกินมา ก็เพื่อนำไปบริหารจัดการอำนวยความสะดวกให้ผู้เช่า แต่ทั้งนี้ก็ยินดีทำตาม แต่อาจจะต้องปรับขึ้นค่าเช่าอีกเล็กน้อย โดยจะคุยกับผู้เช่าก่อนเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
พร้อมกันนี้อยากให้ทบทวนในประเด็นการเก็บค่าเช่าล่วงหน้าและค่าประกันความเสียหาย เนื่องจากอาจเป็นช่องโหว่ให้ผู้เช่าย้ายหอออกกะทันหันได้
ส่วนกรณีที่เจ้าของหอพักอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย พลิกแพลง สคบ. ชี้แจงว่า ก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ต้องมีเอกสารหลักฐานบอกผู้เช่าก่อน ห้ามทำโดยพลการ มิฉะนั้นผู้เช่าก็สามารถฟ้องเอาผิดได้ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท และสามารถร้องเรียนมาได้ที่ สคบ. หรือที่สายด่วน 1166