ชาวบ้านในหลายพื้นที่ เดือดร้อนจากสายสื่อสารต่างๆ ที่ห้อยระโยงระยางลงสู่พื้นดิน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ หลังหญิงชาวขอนแก่น ขี่รถจักรยานยนต์ ถูกสายสื่อสารเกี่ยวคอเสียชีวิต

ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านมา ตามเส้นทางบนถนนประชาสรรค์ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนศรีโสธรตัดใหม่ ทะลุออกยังถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา - บางปะกง (ถนนสิริโสธร) ที่มีประชาชนนิยมใช้เป็นเส้นทางลัดออกมาจากวัดโสธร มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ จำนวนมาก ต่างหวาดเสียว ที่เห็นภาพสายสื่อสารชนิดต่างๆ ที่พาดผ่านมาตามเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ฉะเชิงเทรา และห้อยย้อยลงมากองอยู่บนพื้นดินเป็นจำนวนมาก

นายสุริยา สอนน้อย อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครูวัยเกษียณอายุ ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว โดยระบุว่า สายสื่อสารต่างๆ เหล่านี้ ได้ห้อยย้อยลงมากองอยู่บนพื้นถนนนานหลายเดือนแล้ว หลังจากทาง กฟภ. ได้มีการปรับแนวปักเสาไฟฟ้าใหม่ และมีการย้ายเฉพาะสายส่งกระแสไฟฟ้า ไปพาดผ่านอยู่บนหัวเสาเท่านั้น

แต่ไม่ได้นำเอาสายสื่อสารชนิดต่างๆ ที่เคยพาดผ่านอยู่บนเสาไฟฟ้าต้นต่างๆ ก่อนหน้านี้ ขึ้นไปพาดบนเสาไฟฟ้าต้นใหม่ด้วย จึงทำให้มีสายสัญญาณการสื่อสารต่างๆ จำนวนมาก ตกจากเสาห้อยย้อยลงมากองอยู่ที่พื้นเป็นจำนวนมากนับร้อยเส้น

ทั้งนี้ ได้สร้างความหวาดเสียวให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่ขับขี่ยานพาหนะผ่านเส้นทางบนถนนสายนี้ เป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่า ผู้ที่ไม่รู้เส้นทางผ่านมา จะถูกสายไฟเกี่ยวคอเสียชีวิตเหมือนกับหญิงชาวขอนแก่น ที่ถูกสายสื่อสารเกี่ยวคอเสียชีวิตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

ส่วนที่จังหวัดชลบุรี สายเคเบิ้ลและสายไฟ ที่เกี่ยวพันกันห้อยตกลงมาตามพื้นถนน และห้อยโตงเตงเกือบตลอดเส้นทางทั้งสองฝั่งถนน ในตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี พบสายไฟและสายเคเบิ้ล ที่พันกันเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมา

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า รู้สึกกลัวที่เห็นสายไฟและสายเคเบิ้ลตกลงมาตามริมถนน ทำให้หวาดกลัว เพราะเห็นในข่าวที่เกี่ยวคอหญิงชาวจังหวัดขอนแก่นจนเสียชีวิต เพราะไม่รู้ว่า สายไหนมีไฟ หรือไม่มีไฟ รวมทั้ง ช่วงนี้มีพายุฝนตกหนัก จึงเกรงว่า จะได้รับอันตราย จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาแก้ไขและปรับปรุงโดยเร็ว

ทั้งนี้ ยังพบสายที่ห้อยลงมาอีกหลายพื้นที่ ชาวบ้านได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง อ้างว่า เป็นของหน่วยงานอื่นๆ ชาวบ้านจึงขอให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประสานงานร่วมกัน และจัดการแก้ไข เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของพื้นที่จังหวัดชลบุรี