น้องชายกำนันทวีศักดิ์ ที่ถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่มรถ จนเป็นเหตุให้ภรรยาและลูกสาวเสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าว ช่อง8 เป็นช่องแรก ว่าทราบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว และเชื่อว่าปมเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดของขบวนการค้ายาเสพติด ที่เข้าใจผิดว่ากำนันชี้เป้าให้ตำรวจ ขณะที่งานศพที่บ้านกำนันยังทำใจไม่ได้รับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ที่บ้านของกำนัน ทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต ญาติได้ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็บกุศลศพ ตามความเชื่อของชาวเขาเผ่าม้ง ให้กับ นางไหมเยีย วงค์นภาไพศาล ภรรยาของกำนันทวีศักดิ์ ที่เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ หลังถูกกลุ่มคนร้ายถล่มยิง

คุณนฤพล อาจหาญ ผู้สื่อข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ในงานศพ ไปพบกับ นายมงคล ยอดมณีบรรพต น้องชายของกำนันทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นอีกคนที่เข้าไปช่วยเหลือกำนันได้ทันท่วงที หลังเกิดเหตุถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่ม เปิดเผยกับ คุณนฤพล ว่า ขณะนี้ทางญาติพอรู้กลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว ซึ่งมีอยู่ 2 ถึง 3 กลุ่ม ที่อยู่ในชุมชนระแวกใกล้เคียงและเป็นกลุ่มชนเผ่าเดียวกัน ส่วนมูลเหตุในการลอบสังหาร น้องชายกำนันบอกว่ากำนันทวีศักดิ์อาจจะไปขัดผลประโยชน์ของบวนการค้ายาเสพติด และน่าจะเป็นความเข้าใจผิด ที่กลุ่มคนร้ายเข้าใจว่ากำนันเป็นคนแจ้งเบาะแสให้ตำรวจไปจับกลุ่มผู้ค้า แต่จริงๆแล้วกำนันเพียงแค่ทำงานร่วมกับกลุ่มปราบปรามยาเสพติด แต่ไม่ได้เป็นคนไปชี้เป้าในการจับกุมครั้งที่ผ่านมา

ส่วนประเด็น เรื่องความเชื่อมโยง 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ที่มีนามสกุลเดียวกันกับกำนันทวีศักดิ์ และถูกจับกุมในคดียาเสพติดได้ ที่จังหวัดพะเยา เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา น้องชายกำนันยอมรับว่าเป็นญาติพี่น้องที่ใกล้เคียงกัน และอยู่ในกลุ่มต้องสงสัย แต่ให้น้ำหนักไปที่กลุ่มค้ายาเสพติด ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงมากกว่า

ซึ่งที่งานศพ ขณะนี้ตำรวจยังคงลงพื้นที่ เพื่อเรียกญาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าสอบปากคำอยู่ตลอดเกือบทั้งวัน

ขณะที่ พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 เรียกประชุมคณะสืบสวนสอบสวนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้สามารถมุ่งเป้าปมสังหารเหลือเพียงเรื่องเดียว คือเรื่องยาเสพติด และเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มผู้เสียประโยชน์ในการลักลอบค้ายาเสพติดเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ถูกตำรวจจับกุมได้ 2-3 รายใหญ่ เมื่อช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมา

จากการสอบสวนหาข้อมูลพบว่าก่อนหน้านี้นายทวีศักดิ์ช่วยเหลือและสนับสนุนข้อมูลให้ภาครัฐจนนำไปสู่การยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน จากการออกหมายจับ 5 คน และเชื่อว่าผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังหลบหนี น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย สำหรับครอบครัวนายทวีศักดิ์รวมถึงพลเมืองดีที่ช่วยเรื่องข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ขอยืนยันจะคุ้มครองพยานและดูแลให้ความปลอดภัย

นอกจากนี้ พลจำรวจตรีภาณุเดช ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า พื้นที่อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นั้น มีชนเผ่าชาติพันธุ์อาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านจำนวนมาก ซึ่งในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เป็นเส้นทางหลักในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก อ.แม่สายและอ.แม่จัน

เนื่องจากภูมิศาสตร์ของอ.เวียงแก่นเป็นพื้นที่ชายแดน มีส่วนที่ติดแม่น้ำโขงและภาคพื้นดิน ทำให้ขบวนการค้ายาเปลี่ยนเส้นทางจากแหล่งผลิตจากรัฐฉาน เข้าท่าขี้เหล็ก ข้ามแม่น้ำโขงมาฝั่งลาวแล้วเดินเท้าก่อนย้อนกลับเข้ามาในไทยทาง อ.เวียงแก่น จึงทำให้การจับกุมได้ของกลางล็อตใหญ่