ผู้อำนวยการศูนย์ปราบฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แถลงคืนเงินที่อายัดได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้กับผู้เสียหาย 5 คน รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
พลตำรวจเอก ธนิตศักดิ์ ธีระสงัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมด้วยพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และตัวแทนจากธนาคารพาณิชย์ ได้คืนเงินที่อายัดได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้กับผู้เสียหาย 5 คน รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการคืนเงินครั้งที่ 17
พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การคืนเงินให้กับผู้เสียหาย ถือเป็นมาตรการสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเช็คเส้นทางการเงิน และจะเร่งคืนเงินทุกสัปดาห์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะนี้กำลังเร่งเฉลี่ยทรัพย์ให้กับผู้เสียหาย ขณะเดียวกันก็เดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มข้น
โดยจะมีการตั้งศูนย์ปราบปรามเทคโนโลยี เพื่อทำงานเชิงรุกเช่นเดียวกับศูนย์ปราบคอลเซ็นเตอร์ แต่ศูนย์นี้จะสืบสวนขยายผลครอบคลุมที่เรื่องที่มีการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีทั้งหมด ทั้งเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ และโรแมนซ์สแกม
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า ปปง.จะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินร่วมกับตำรวจเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ และนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ย้ำว่าจะดำเนินการโดยเร็ว
ฝากถึงประชาชนว่า แก๊งเหล่านี้ยังมีอยู่ ถึงแม้ว่าจะลดน้อยลงก็ตาม ถ้าประชาชนสงสัยว่า จะถูกหลอก สามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 1710 และ 1155 ได้ทันที อย่าหลงเชื่อโอนเงินโดยเด็ดขาด เพราะไม่มีหน่วยงานใดไปขอตรวจสอบบัญชีของประชาชนได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ถึงปัจจุบัน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้รับแจ้งเหตุ 446 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 235 ล้านบาท โดยสามารถอายัดเงินคืนผู้เสียหายได้แล้ว 110 ราย รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท