กรณีที่ชายวัย 59 ปี ใน จ.ฉะเชิงเทรา จะบริจาคดวงตาให้หญิงตาบอด ใน จ.บุรีรัมย์ จนเป็นกระแสชื่นชม แต่ในทางปฎิบัตินั้นพบว่าไม่สามารถทำได้

จากกระแสชื่นชมนายพายับ รอดเมือง ผู้พิการติดเตียงวัย 59 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ติดต่อผ่านรายการโทรทัศน์ประสงค์จะบริจาคดวงตา 1 ข้างให้กับนางสาวสุนิสา มุ่งรวยกลาง วัย 26 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากเห็นว่าตาบอดทั้งสองข้างและต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก รวมถึงพ่อแม่ที่แก่แล้วเพียงลำพัง

แต่ล่าสุดมีข้อมูลออกมาว่าการบริจาคลักษณะนี้ไม่สามารถทำได้ ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเรื่องขั้นตอนการบริจาคดวงตาจากศูนย์ดวงตาสภากาชาด ระบุว่าการบริจาคดวงตาเพื่อผ่าตัดช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจะทำในกรณีที่ผู้บริจาคเสียชีวิตแล้วเท่านั้น

โดยจะต้องเก็บดวงตาทั้งดวงภายใน 6 ชั่วโมง หลังการเสียชีวิต จากนั้นจะแยกกระจกตาออกเพื่อนำมาใช้ผ่าตัด

แต่ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้บริจาคป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อดวงตาหรือไม่ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งในบางกรณี ส่วนผู้รับบริจาคเองหากตรวจสอบพบว่าตาบอดถาวรหรือเกิดจากประสาทตา ก็ไม่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้

ส่วนกรณีที่ผู้บริจาคมีการระบุชื่อบุคคลที่ต้องการจะบริจาคให้นั้น ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะการจะผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้นั้นต้องดูองค์ประกอบด้านอายุและจำนวนเซลล์ที่เข้ากันได้ด้วย

สภากาชาดยันบริจาคดวงตาต้องทำกรณีผู้บริจาคเสียชีวิต