จิตแพทย์แนะทุกคนควรเห็นคุณค่าในตัวเองและควบคุมอารมณ์โกรธ ป้องกันการทำร้ายหรือฆ่าผู้อื่น หากไม่ได้รับความรัก หรือ ความรักไม่สมหวัง พร้อมกับชี้ ผู้ก่อเหตุลักษณะนี้ส่วนใหญ่พบว่ามักถูกละเลยในวัยเด็ก
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุอดีตแฟนหนุ่มจ่อยิงนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตศาลายาหลังพยายามง้อขอคืนดีกับแฟนสาว แต่ถูกปฏิเสธไม่ยอมพูดคุยด้วย และมีท่าทีเมินเฉย ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองเสียชีวิต
วันเดียวกัน ยังเกิดเหตุลักษณะเดียวกัน กลางตลาดมีนบุรี หลังฝ่ายชายตามง้อขอคืนดี แต่ถูกอดีตแฟนสาวปฏิเสธ และมีปากเสียงกันขึ้น ก่อนที่ฝ่ายชายจะชักปืนจ่อยิงอดีตแฟนสาว และยิงตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอธิบายว่า เกิดจากความผูกพันและการพึ่งพากันของผู้ชายและผู้หญิง และมองว่าวิธีที่ดีที่สุดเมื่อต้องแยกจากกันคือการทำให้เสียชีวิต โดยกลไกทางจิตพบว่าส่วนใหญ่ผู้ชายที่ก่อเหตุลักษณะนี้ มักจะเคยถูกแม่ทอดทิ้ง หรือ ละเลยในวัยเด็ก เมื่อถูกแฟนหรือภรรยาทอดทิ้งอีกก็จะยิ่งรู้สึกสูญเสีย
สำหรับคนที่สูญเสียความรัก ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาแนะนำว่า หากเป็นฝ่ายถูกคุกคามควรสังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่าย และไม่ใช้คำพูดรุนแรงเพื่อกระตุ้นอารมณ์โกรธของอีกฝ่าย ควรใช้สติในการเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง ส่วนคนที่รู้สึกว่าตัวเองโกรธง่าย ควรรู้จักจัดการกับอารมณ์ตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเองและต้องเข้าใจว่าความสูญเสียเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาระบุด้วยว่า แม้ในประเทศไทยจะยังไม่มีการบันทึกสถิติอัตราการเสียชีวิตจากกรณีคู่รักฆ่ากันแล้วฆ่าตัวตายตาม แต่จากการติดตามข่าวพบว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดถี่ขึ้น ซึ่งอีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือหากคู่รักที่เสียชีวิตลักษณะนี้มีลูก และเด็กได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจและเมื่อโตขึ้นอาจก่อเหตุซ่ำเพราะเคยเห็นพฤติกรรมรุนแรงในวันเด็ก