เกษตรกรใน จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี รวมตัวกันยื่นหนังสือเพื่อขอให้ทำฝนหลวง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมานาน จนได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ชาวนาใน จ.นครราชสีมา ต้องยอมปล่อยให้ข้าวยืนต้นตาย เพราะไม่มีน้ำ

เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) นายสมบัติ ท้าวสาบุตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลช่องสาลิกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีตำบลธารเกษม อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดลพบุรี ได้เป็นตัวแทนเกษตรกรในพื้นจังหวัดลพบุรี และ สระบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อนายขวัญชัย เพ็ชรกลับ นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง หน่วยปฎิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี เพื่อให้ช่วยเหลือปฏิบัติการทำฝนหลวง บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรทั้ง 2 จังหวัด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก หลังฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน

โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อับฝน รวมกว่า 10 ตำบล พื้นที่ทางการเกษตร รวมกว่า 5 พันไร่ พืชไร่ที่เจริญเติบโตกำลังจะยืนต้นตาย หากไม่มีฝนตกลงมาในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยเฉพาะข้าวโพด ซึ่งอยู่ในระยะเจริญเติบโต ออกดอกหัว รอการผสมเกสร ติดเมล็ด ทำให้การเจริญเติบโตชะงัก , เหี่ยวเฉา และกำลังจะแห้งตาย

เบื้องต้น นายขวัญชัย หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี เผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมปรับแผนในการปฏิบัติการให้สอดคล้องตามที่เกษตรกรร้องขอ และเตรียมความพร้อมอากาศยานแบบ คาราแวน จำนวน 3 ลำ พร้อมสารทำฝนหลวง เพื่อขึ้นปฏิบัติการในทันที หากเรดาห์ตรวจอากาศ ตรวจพบ กลุ่มเมฆฝน และความชื้นที่เหมาะสม

ขณะที่หลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา กำลังประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงนานหลายสัปดาห์ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีหลายราย ในอำเภอโนนสูง ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

นางทองคำ ตาชูชาติ อายุ 63 ปี เกษตรกรในตำบลขามเฒ่า อำเภอโนนสูง บอกว่า ตนเองได้ลงทุนปลูกข้าวนาปี ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิ จำนวน 20 ไร่ กำลังเจริญเติบโตเป็นต้นกล้า แต่ก็ต้องมาประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนาน ตอนนี้ต้นข้าวเหี่ยวเฉา เนื่องจากขาดน้ำ และยืนต้นตายไปแล้วหลายสิบไร่ เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำไหลผ่าน จึงต้องรอคอยเพียงน้ำฝนเท่านั้น ดังนั้นหากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ อาจทำให้ ข้าวนาปี ที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหายทั้งหมด

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามเกษตรรายอื่น ก็บอกว่า จำเป็นต้องปล่อยให้ต้นข้าวยืนต้นตายไปก่อน แล้วจะรอคอยฝนที่จะตกลงมา หากมีปริมาณน้ำท่วมขังในนาข้าว จึงจะลงทุนปลูกข้าวนาปีอีกครั้ง