เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบโรงงานสิ่งพิมพ์ ภายในหมู่บ้านจัดสรร จังหวัดเชียงใหม่ หลังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จากกลิ่นเหม็นและเสียงดังรบกวนมานานกว่า 3-4 ปี
เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ประชุมร่วมกับตำรวจ สภ.ภูธรช้างเผือก และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่หลังมีผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือ
เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากกลิ่นเหม็นของสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ ของโรงงานรับจ้างผลิตสิ่งพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์ รวมถึงแรงสั่นสะเทือน และเสียงดังจากโรงงานดังกล่าว มานานกว่า 3-4 ปี แม้เทศบาลนครเชียงใหม่ มีคำสั่งปิดแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่โรงงานกลับยังเปิดดำเนินการ โดยอ้างว่า ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งปิด และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
เจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ โดยได้แสดงตัวอย่างเปิดเผย แต่ปรากฏว่า พนักงานของโรงงานปฏิเสธที่จะให้เข้าตรวจสอบ โดยอ้างว่า เจ้าของโรงงานไม่อยู่ จากนั้นพนักงาน จึงโทรศัพท์หาเจ้าของ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พูดคุย แม้เจ้าหน้าที่จะแจ้งรายละเอียดแล้ว แต่ทางเจ้าของยังคงบ่ายเบี่ยง และมอบหมายให้ทนายความมาเจรจา ท่ามกลางผู้อยู่อาศัยที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ที่มาติดตามสถานการณ์
เบื้องต้น ทนายความยอมรับว่า โรงงานเปิดดำเนินการโดยไม่ถูกต้อง และถูกคำสั่งให้ปิดจริง แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คำสั่ง และเตรียมที่ย้ายไปตั้งโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า โรงงานจะต้องหยุดดำเนินการ และขออนุญาตเข้าเข้าตรวจสอบ ทนายความก็ยังบ่ายเบี่ยง หลังจากเจรจากันอยู่นาน สุดท้ายจึงยินยอม ให้เข้าตรวจสอบประมาณ 30 นาที
ขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว บอกว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ทั้งกลิ่นเหม็นของน้ำเสีย รวมถึงเสียงดังจากเครื่องจักร และแรงสั่นสะเทือน จนบางรายต้องยอมย้ายบ้านหนี
โดยโรงงานแห่งนี้เข้ามาเช่าบ้าน เปิดดำเนินกิจการประมาณ 10 ปี เริ่มจากกิจการเล็กๆ แต่ต่อมาได้ขยายตัว และไม่เข้าใจว่า โรงงานแห่งนี้ มาตั้งในหมู่บ้านจัดสรรได้อย่างไร ซึ่งหลังเข้าตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก แจ้งความดำเนินคดีกับโรงงานดังกล่าวต่อไป