เรือนำเที่ยวถูกคลื่นซัดล่มกลางทะเลภูเก็ต 3 ลำ นักท่องเที่ยวกว่าร้อยชีวิตลอยคอกลางทะเล เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกกว่า 50 คน และ พบศพนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตแล้ว 1 ราย
จากกรณีฝนตกหนักคลื่นลมแรงในรอบ 7 ปี ส่งผลให้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (5 ก.ค.) เกิดเหตุเรือไดร์วิ่ง หรือ เรือนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ชื่อ พีซีไดร์วิ่ง ฟินิกส์ ซึ่งเป็นเรือ 2 ชั้น ล่มกลางทะเล บริเวณหน้าเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะนำนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นทัวร์ดำน้ำ ออกจากท่าเทียบอ่าวฉลอง เพื่อเดินไปยังเกาะเฮ แต่ถูกคลื่นลมแรงซัดเรือจนล่ม ทำให้นักท่องเที่ยว และ ไดร์มาสเตอร์ ลูกเรือ รวม 97 คน ต้องลอยคอรอการช่วยเหลือ
เวลาเดียวกัน เกิดเหตุเรือเซเนริต้า ล่มบริเวณระหว่างเกาะไม้ท่อน-เกาะเฮ มีผู้โดยสาร 41 คน เป็นนักท่องเที่ยว 39 คน ลูกเรือ 2 คน และ อีกเหตุการณ์ เป็น เรือเจ็ตสกี ซึ่งขับขี่ออกจากเกาะราชา ไม่ทราบที่หมาย ขับขี่โดยคู่สามีภรรยาชาวรัสเซีย อีก 2 คน ที่ขาดการติดต่อ รวมผู้ประสบภัยทั้งหมด 148 คน
หลังเกิดเหตุ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้สนธิกำลังทหารเรือ ตำรวจน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเรือออกให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่การช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากคลื่นลมค่อนข้างสูง
ขณะที่ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว รวม 94 ราย โดยผู้ประสบภัยจากเรือ เซเนริต้า จำนวน 41 ราย นั้นสามารถช่วยได้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนผู้สูญหายจากการเล่นเรือเจ็ตสกี ซึ่งเป็น 2 สามีภรรยาชาวรัสเซีย สามารถช่วยได้แล้วเช่นกัน ขณะผู้ประสบภัยเรือฟินิกซ์ พีซีไดร์วิ่ง กว่า 100 ราย ขณะนี้ช่วยได้แล้ว 51 ราย และพบศพนักท่องเที่ยวชายชาวจีน จมน้ำเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ทำให้ขณะนี้ยังมียอดผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) จะประสานนำเฮลิคอปเตอร์ มาช่วยค้นหาอีกแรง
ด้าน พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุถึงเหตุการณ์เรือล่มดังกล่าว ว่า เรือที่ออกไปทั้ง ฝ่าฝืนคำสั่งของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องการประกาศคลื่นลมแรง ในทะเลฝั่งอันดามัน แต่ปัจจัยที่ทำให้เรือล่ม ในส่วนนี้ต้องรอจนกว่า จะหาตัวคนขับเรือและนายท้ายเรือได้ เบื้องต้นได้สั่งให้ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต เรียกตัวเจ้าของบริษัทเรือ มาให้ข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว
ส่วนมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวนั้น กำลังประสานทางกองทัพเรือ เพื่อใช้เรือรบหลวงในการเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง ทำให้เรือเล็กที่ตำรวจน้ำ และตำรวจท่องเที่ยว มีอยู่ ไม่สามารถออกไปให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกลางทะเลได้ อย่างไรก็ตามผู้ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ คนจีน ไต้หวัน และ ชาวรัสเซีย ได้จัดล่ามแปลภาษาในการประสานกับผู้ประสบภัยแล้วด้วย