ชายวัย 32 ปี กลับจากเที่ยวผับและเมาสุรา จึงโบกรถแท็กซี่กลับบ้าน สุดท้ายถูกขโมยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 150,000 บาท แถมยังปล่อยทิ้งให้นอนกลางถนน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลังได้รับแจ้งจากชายอายุ 32 ปี ชาวบ้านตำบล ในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการว่า ถูกคนขับรถแท็กซี่ ลักทรัพย์ เหตุการณ์เกิดขึ้น เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปนั่งกินข้าว และดื่มสุรากับเพื่อน 3 คน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน จนกระทั่งรู้สึกว่า เริ่มมึนๆ จึงขอตัวกลับ และเดินออกมาเรียกแท็กซี่ โดยมีรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีเหลืองเขียว จอดรับ ซึ่งตอนนั้น ตนยังมีสติ ขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง แล้วบอกจุดหมายปลายทางกลับบ้าน ที่ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ และจำได้ว่า ตอนนั้นทรัพย์สินยังอยู่ครบ
พอนั่งแท็กซี่ไปสักพัก รู้สึกว่า ง่วงนอนจึงหลับตา มารู้ตัวอีกที เวลาประมาณ 05.00 น. โดยพบว่า ตัวเอง นอนอยู่บนถนนริมฟุตบาทหน้าวัดพระสมุทรเจดีย์ ตนถึงกับตกใจว่า มานอนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร พอตั้งสติได้จึงได้ตรวจดูทรัพย์สิน
พบว่า หายไปหมด ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทองสมเด็จวัดเกศไชโย แหวนทองคำหัวมังกร หนัก 2 บาท นาฬิกาทอง 1 เรือน และ ทรศัพท์มือถือรุ่นไอโฟน 8 จำนวน 1 เครื่อง รวบมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150, 000 บาท
เบื้องต้น ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ และทำหนังสือขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่รถแท็กซี่คันที่ก่อเหตุขับผ่าน และพบว่าหลังปลดทรัพย์ และนำตัวผู้เสียหายไปทิ้งไว้ข้างทางแล้ว แท็กซี่คันดังกล่าวยังเปิดไฟ 'ว่าง' เพื่อรับผู้โดยสารต่ออีกด้วย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบหาคนขับแท็กซี่คันดังกล่าว โดยผู้เสียหาย ฝากไปถึงคนขับแท็กซี่ว่า หากเอาทรัพย์สินมาคืน ตนจะไม่เอาเรื่อง เพราะสิ่งที่อยากได้คืน คือพระเลี่ยมทอง เนื่องจากเป็นสมบัติที่ปู่กับย่าให้ไว้ พร้อมเตือนประชาชน ที่ชอบรับประทานอาหารและดื่มสุรา หลีกเลี่ยงการใส่หรือพกของมีค่าติดตัว