ชาวนาในจังหวัดสุรินทร์ เดือดร้อนหลัก หลังฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 3 เดือน ข้าวในนายืนต้นตายหลายพันไร่
ฝนที่ทิ้งช่วงไม่ตกลงมานานเกือบ 3 เดือน ในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ทำให้ที่นาหลายพันไร่ ในเขตอำเภอชุมพลบุรี กำลังยืนต้นตาย ชาวนาได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นายสมศักดิ์ ทองมี อายุ 43 ปี ชาวบ้านเบง หมู่ 2 ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี บอกว่า ตนเองทำนา กว่า 30 ไร่ ได้ลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวและค่าหว่าน ค่าไถนา ค่าแรงเป็นเงินทั้งหมด 60,000 ถึง 70,000 บาท
ตอนนี้ได้รับผลกระทบ ข้าวขาดน้ำ ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ตนเองและชาวนาในพื้นที่ จะต้องประสบปัญหาขาดทุน และไม่รู้ว่า จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุน ทำนาอีกรอบ ทุกวันนี้ ได้แต่นั่งมองดูต้นข้าวในนา ที่กำลังยืนต้นตาย โดยไม่สามารถแก้ไขได้เลย
ด้านนายสุพรรณ จันทรา อายุ 51 ปี พนักงานสูบน้ำของโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าบ้านท่าลาด ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี บอกว่า ในทุกปีทางโครงการฯ จะส่งน้ำไปช่วยเหลือชาวนา
แต่ในปีนี้ สาเหตุที่สูบน้ำล่าช้า เกิดจากมีโครงการทำแก้มลิงบริเวณเครื่องสูบน้ำดังกล่าว จึงมีการรื้อถอนท่อส่งน้ำบางส่วนออก ไม่สามารถส่งน้ำไปช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่ได้ ขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลศรีณรงค์ ได้เข้ามาติดตั้งท่อเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งน้ำให้กับพี่น้องชาวนาได้ต่อไป
สำหรับคลองส่งน้ำดังกล่าวมีความยาว 4 กิโลเมตร สามารถส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงนาข้าวได้ประมาณ 2,000 ถึง 3,000 ไร่ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่า จะแล้งมากหรือน้อย บวกกับแม่น้ำมูลมีระดับที่ต่ำมาก คงจะสามารถสูบได้เต็มที่ประมาณหนึ่งเดือน
และที่นาที่อยู่ปลายทางของคลองส่งน้ำ อาจจะต้องใช้เวลาเกือบเดือน น้ำถึงจะไปล่อเลี้ยงที่ตรงปลายทาง ซึ่งคลองส่งน้ำแห่งนี้ สามารถช่วยได้เฉพาะที่นาในส่วนที่อยู่ใกล้คลองส่งน้ำเท่านั้น