เป็นไปตามธรรมเนียมของกองทัพ เมื่อถึงช่วงกรกฎกาคม-สิงหาคม จะเป็นช่วงที่แต่ละเหล่าทัพจะมีการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหาร หรือ โผทหาร เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม ปีนี้มีความพิเศษว่า ปีอื่น เพราะผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด เกษียณอายุราชการพร้อมกันยกแผง
โผทหารลงตัว "พล.อ.อภิรัชต์"จ่อขึ้นผบ.ทบ.เดือนตุลาคมนี้
การจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารในปีนี้ มีนายทหารระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพเกษียณอายุราชการยกแผง ไล่ตั้งแต่พลเอก เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ
โดยล่าสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้จัดทำโผทหารรอบแรก เพื่อส่งให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว
เบื้องต้น มีการคาดหมายว่า พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิทของพลเอก ประวิตร อาจจะขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม
ส่วนพลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. หรือ บิ๊กแดง ซึ่งเป็นนายทหารที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯให้ความไว้วางใจเพราะปัจจุบันพลเอก อภิรัชต์ ยังเป็นประธานบอร์ดกองสลากฯอีกด้วย จึงคาดว่า จะได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.
สำหรับพลเอก อภิรัชต์ เป็นลูกชายคนโตของ พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรสช. หรือ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ในการรัฐประหารเมื่อปี 2534
ส่วนเก้าอี้ตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพคนอื่นๆ คาดหมายว่า พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. คาดว่า จะขยับขึ้นเป็น ผบ.ทร. พลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วย ผบ.ทอ.คาดว่า จะขยับขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ซึ่งทั้ง3 คนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 18 ของพลเอก เทพพงศ์ ปลัดกระทรวงกลาโหม
โดยในวันที่ 25 ก.ค.นี้ พลเอก ประวิตร จะเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม เชิญ ผบ.เหล่าทัพมาร่วมหารือบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2561 ในเบื้องต้น ก่อนจะเรียกประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลในช่วงโค้งสุดท้ายอีกครั้ง
"วรชัย"ชี้คสช.จัดโผทหารวางแผนรักษาอำนาจ หวังกุมความได้เปรียบเลือกตั้ง
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดโผทหารครั้งนี้อาจต้องเป็นคนของผู้มีอำนาจในรัฐบาลปัจจุบันเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองไว้ เพราะจะต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่ง ส.ว.และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องมีผบ.เหล่าทัพร่วมด้วย
จึงไม่รู้ว่าจะเป็นการวางฐานการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ เพื่อทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ามีการใช้ทหารตามภาคต่างๆ เดินสายดูด อดีต ส.ส.เพื่อให้มาอยู่กับกลุ่มพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย