ชาวประมงพื้นบ้าน ตำบลปากทะเล ร้องผู้สื่อข่าวหลังได้รับความเดือดร้อนจาก “กระซ้า”(เปลือกหอย) และ ดินทราย ทับถม ปิดร่องน้ำปากคลอง จนเส้นทางออกทะเลตื้นเขิน นำเรือหาปลาออกจากฝั่งไม่ได้ ที่ผ่านมา เคยแจ้งขอความช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาขุดลอก แต่เรื่องยังเงียบ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หลังได้รับแจ้งการร้องเรียน จาก ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ 2 และหมู่ 3 ตำบลปากทะเล อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี กว่า 50 คน ที่เดินทางมาที่บริเวณคลองปากทะเล เขตติดต่อหมู่ 2 และหมู่ 3 ตำบลปากทะเล
เนื่องจากตอนนี้ชาวประมงเดือดร้อนหนัก จากปัญหา "กระซ้า" หรือ เปลือกหอย ถูกกระแสน้ำและกระแสลม พัดมาถม ปิดปากคลอง ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออกของเรือประมงพื้นบ้าน ทำให้ชาวประมงได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก นายวัชรา อิศรางกูร อายุ 49 ปี เล่าว่า คลองปากทะเลแห่งนี้ ชาวประมงหมู่ 2 และหมู่ 3 กว่า 200 หลังคาเรือน ใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออก ทำประมงมานานหลายสิบปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวประมง นำเรือวิ่งเข้า-ออกได้ตามปกติ แต่เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาได้เกิดกระแสน้ำ และ กระแสลม พัดพาเอา กองกระซ้า และ ดินทราย มาทับถมปิดปากคลองดังกล่าว
ที่ผ่านมาชาวประมง ช่วยกันระดมเงินและออกแรกช่วยกันขุดเอากระซ้าออก เพื่อนำเรือออกสู่ทะเลได้ แต่นับวัน กระซ้าและดินทราย ได้ทับถมเรื่อยมาจนมีความหนาสูงกว่า 3 เมตร ยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ไม่สามารถขุดกระซ้าออกเองได้ เวลาจะนำเรือออกทะเล ต้องรอน้ำขึ้น นานกว่า 1-2 ชั่วโมง
ซึ่งจากเดิม เรือสามารถวิ่งตรง ออกไปเพียง 30 เมตร แต่ปัจจุบันต้องวิ่งอ้อมออกไป ประมาณ 500 เมตร และที่สำคัญเวลานำเรือกลับเข้าฝั่ง ถ้าเป็นช่วงเวลาน้ำลด จะต้องจอดเรือ และ เดินเท้า ขนของทะเลกลับเข้าฝั่ง ระยะทางไกลกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลทำให้สัตว์ทะเลตาย ไม่สดใหม่ ราคาสินค้าลดลง และบางครั้งอุปกรณ์ทำมาหากิน ที่อยู่ในเรือ ก็ถูกโจรขโมยไป
ที่ผ่านมา ชาวบ้าน เคยร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า จึงวอนสื่อมวลชน ช่วยเป็นสื่อกลาง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้ กองกระซ้า และ เนินดิน กำลังจะลามทับถม ไปถึงป่าชายเลน และกำลังจะ ปิดเส้นทางเข้าออกเรือ อีกเส้นทางหนึ่งด้วย