ตำรวจเร่งตามตัว นายโก้ ผู้ต้องหาฆ่าโหด ไฮโซสาวเชอรี่ หมกโรงแรมย่านลาดพร้าว มาดำเนินคดี หลังพบเบาะแส หนีข้ามชายแดนจังหวัดจันทบุรี เข้าไปที่ประเทศกัมพูชาแล้ว โดยมีเบาะแส รถเบนซ์ของผู้ตาย ถูกจอดทิ้งไว้ ขณะที่ครอบครัว รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้เร่งนำตัวคนร้ายมาลงโทษ
วงจรปิดจับภาพ "นายโก้" พร้อม "เชอรี่" เข้าโรงแรมพร้อมกันก่อนเสียชีวิต
ภาพวงจรปิดในโรงแรมหรู ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 เขตลาดพร้าว บันทึกภาพ ขณะที่ นางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอรี่ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง และ ขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันอีก 3 แห่ง พร้อมด้วย นายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ อายุ 33 ปี ลูกน้องคนสนิท ในบริษัท ทำหน้าที่คอยดูแลบัญชีและทรัพย์สินให้ ได้เข้ามาในห้องพัก พร้อมกัน เกือบ 5 ทุ่ม ของวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ถัดจากนั้นประมาณ 3 ชั่วโมง นายอัศยา ได้ออกจากห้องเพียงคนเดียว ในช่วงเวลา 1 นาฬิกา 55 นาที และขับรถเบนซ์ ของผู้ตายออกไป กระทั่งญาติของ นางสาวธิติมา ติดต่อไม่ได้ จึงไปแจ้งความกับตำรวจ ให้ตามหาตัว และเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจตามไปพบศพ นางสาวธิติมา อยู่ในห้องพัก สภาพสวมชุดนอนสีเขียว ฟุบหน้าจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน มีบาดแผลถูกตีด้วยไม้เบสบอลเหล็ก ที่บริเวณขมับด้านขวา จนกะโหลกศีรษะยุบเสียชีวิต ในห้องไม่มีร่องรอยรื้อค้น และยังเปิดแอร์เอาไว้ ใกล้ศพ พบไม้เบสบอล สภาพเหล็กยุบตัว เปื้อนเลือด 1 อัน
แม่บ้านโรงแรมได้ยินเสียง "นายโก้-เชอรี่" ทะเลาะกัน ก่อนเงียบหาย
ขณะที่ พันตำรวจเอก สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการ สน.โชคชัย บอกว่า หลังเกิดเหตุ ได้สอบปากคำญาติผู้ตายทราบว่า ปกติผู้ตาย จะคุยกันในกลุ่มไลน์พนักงานบริษัท แต่เมื่อ วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายไม่มีการโต้ตอบไลน์ ญาติจึงได้โทรไปหา แต่นายโก้ กลับเป็นผู้รับสาย พร้อมบอกว่า ผู้ตายกำลังทำบุญ ไม่สามารถรับสายได้ ต่อมาช่วงบ่าย ญาติโทรกลับไปอีกครั้ง ก็ไม่มีสัญญาณ และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.โชคชัย แล้วออกตามหา จนกระทั่งพบว่า เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมดังกล่าว
สอบสวนพบว่า ผู้ตายมาเปิดห้องพักนานกว่า 1 เดือน วันเกิดเหตุ พนักงานโรงแรมให้การว่า ช่วงดึกวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้ตาย เข้ามาห้องพักกับชายคนหนึ่ง โดยไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร จากนั้นแม่บ้าน ได้ยินเสียงชายหญิงมีปากเสียง ทะเลาะวิวาทกัน ก่อนจะเงียบไป และไม่นาน ชายคนดังกล่าวขับรถเบนซ์ ออกจากโรงแรมไปเพียงลำพัง
เมื่อตำรวจสืบหารถดังกล่าว พบรถเบนซ์ ผู้ตาย ไปจอดทิ้งไว้ ใกล้ด่านชายแดนไทยกัมพูชา จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา คาดว่า นายโก้ น่าจะข้ามชายแดนไปแล้ว และพบข้อมูลว่า มีการเบิกเงินหลายแสนบาทจากธนาคาร
ตำรวจจึงออกหมายจับ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และตั้ง 2 ประเด็นคือ เรื่องชู้สาว และ เรื่องทรัพย์สิน
เร่งล่า "นายโก้" ใช้ไม้เบสบอลฆ่าโหด "เชอรี่" ไฮโซสาว คาดกบดานกัมพูชา
ส่วน พลตำรวจตรี ธีรพงศ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้ประชุมชุดสืบสวน สน.โชคชัย และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 4 พร้อมเปิดเผยว่า ล่าสุด ได้ประสานประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยติดตามตัวนายโก้แล้ว หลังพบเบาะแสว่า หลบหนีเข้าบ่อนการพนันฝั่งกัมพูชา และพบความเคลื่อนไหว ย่านอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
ส่วนสาเหตุคาด เกิดจากการทะเลาะวิวาท เนื่องจาก นายโก้ ติดการพนัน ใช้เงินฟุ่มเฟือย และยืมเงินผู้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมาก จนผู้ตายทนไม่ไหว และมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ตรวจสอบนิสัยนายโก้ พบว่า เป็นคนอารมณ์ร้อนและโมโหร้าย
พบเงินในบัญชี "เชอรี่" ถูกถอดออกกว่า 2 ล้านบาทก่อนเสียชีวิต
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จากการตรวจสอบความเคลื่อน ไหวทางบัญชีธนาคารของ ผู้ตาย พบว่าก่อนเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ มีการถอนเงินสดไป 2 ล้าน 5 แสนบาท และครั้งสุดท้าย คือก่อนเกิดเหตุเพียงแค่วันเดียว ก็มีการถอนเงินไปอีก 2 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ตัวนายโก้ ถูกกล่าวหาเรื่องยักยอกเงินบริษัทอีกด้วย
ส่วนของประเด็นเรื่องชู้สาว จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ก่อนหน้านี้นายโก้ เคยมีแฟนมาก่อน แต่เลิกราไปแล้ว ต่อมาถูกผู้ตายจับได้ว่า ยังมีการติดต่อกันบ้าง เลยมีปากเสียงทะเลาะกัน แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงทำร้ายร่างกาย ชุดสืบสวนจึงให้น้ำหนักเรื่องทรัพย์สิน มากกว่าเรื่องชู้สาว
พบรถเบนซ์ "เชอรี่" ทิ้งด่านชายแดน จ.จันทบุรี
ล่าสุด พันตำรวจเอก ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี แจ้งว่า พบรถเบนซ์ รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวธิติมา จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถเอกชน จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถ ถูกถอดวางทิ้งไว้หลังรถ นอกจากนี้มีเสื้อผ้า เอกสาร และเศษเส้นผมของผู้ตาย จึงตรวจเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ก่อนเคลื่อนย้ายรถไปเก็บรักษาที่ สน.โชคชัย
ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า นายโก้ นำรถมาจอดไว้เฉยๆ หรือ มีผู้รับจำนำรถคันดังกล่าวหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของนายโก้ ติดการพนัน เบื้องต้นคาดว่า นายโก้ น่าจะข้ามด่านชายแดน โดยใช้ช่องสุนัขผ่าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ช่องหมารอด ซึ่งเป็นช่องทางผิดกฎหมาย เชื่อว่านายโก้ น่าจะใช้ความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่ ให้ช่วยพาตัวข้ามผ่านชายแดนหลบหนีเข้าฝั่งประเทศกัมพูชา
ครอบครัว "เชอรี่" ทำใจไม่ได้หลังรู้ข่าว วอนตำรวจตามคนร้ายมาลงโทษ
ส่วนบรรยากาศที่ศาลา 1 วัดบางบัว เขตบางเขน สถานที่บำเพ็ญกุศลศพ นางสาวธิติมา มีครอบครัว จัดเตรียมสถานที่ จะมีการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 วัน และจะฌาปนกิจในเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 สิงหาคม ภายในงานมีญาติและคนรู้จัก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ตาย เคยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านหลายชุมชน เป็นที่รักของทุกคน เมื่อทราบข่าวต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแม่ของผู้ตาย มีอาการป่วยทางสมอง กำลังจะมีอายุครบ 66 ปี ในวันที่ 4 สิงหาคม ญาติยังไม่ได้แจ้งถึงการสูญเสีย เพราะกลัวมีผลกระทบทางจิตใจ
ด้าน นายปฐมพัฒน์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 40 ปี พี่ชายของผู้ตาย บอกว่า ปกติแล้วจะคุยเรื่องทั่วไปในไลน์กลุ่มครอบครัว จนเมื่อเชอรี่หายไปหลายวัน น้องชายจึงออกตามหา พยายามติดต่อเชอรี่ผ่านนายโก้ ก็อ้างว่า ติดธุระอื่นอยู่ จนมาพบเป็นศพ ที่ผ่านมา เชอรี่ เคยสัมภาษณ์ลงนิตยสารว่า ฝันอยากสร้างบ้านให้คนอยู่ อยากให้ทุกคนมีบ้านอยู่ในราคาถูก หลังจากนี้ทางครอบครัวก็จะสานฝันต่อให้
ส่วน พิพัฒน์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 36 ปี น้องชาย บอกว่า ตนเองติดต่อพูดคุยกับพี่สาวอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยถามเรื่องส่วนตัวมากนัก และก็ไม่ทราบมาก่อนว่า คบหากับนายโก้ ซึ่งทำงานด้วยกัน แต่เพิ่งรู้เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพราะพฤติกรรมส่อแววว่า เป็นมากกว่า เจ้านาย และลูกน้อง ส่วนที่พักในโรงแรมกัน ครอบครัวก็ไม่ทราบ คาดว่า ต้องการปกปิดไม่ให้ครอบครัวรู้ ส่วนปมสาเหตุ คาดว่า เรื่องเงิน และผลประโยชน์
ส่วน นายอำนวย วิชัยโชติ พ่อของผู้ตาย บอกว่า ตนเองรู้สึกช็อกมาก เมื่อได้ข่าวลูกสาวเสียชีวิต เพราะเวลาทำธุรกิจ ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร และก็ไม่มีสัญญาณว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ลูกสาวมีบริษัทธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดทำโครงการอาคารเอื้ออาทรกว่า 100 ห้อง บริเวณลาดพร้าว - วังหิน ระหว่างก่อสร้างลูกสาว ก็เป็นที่รักของคนในชุมชน ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 26 กรกฎาคม ลูกสาวเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้ตนและภรรยาที่คอนโดมิเนียมย่านวังหิน จากนั้น ลูกขาดหายการติดต่อไป
ที่ผ่านมา ตนเอง เคยเจอนายโก้ ที่บริษัทลูกสาว เห็นแล้วรู้สึกไม่ถูกชะตา เตือนลูกสาวก็ไม่ฟัง หลังเกิดเหตุก็พบว่า ชายคนนี้มีครอบครัวแล้ว โดยหลังจากที่ภรรยาจับได้ นายโก้ ก็ตัดสินใจเลิกกับภรรยา มาอยู่กับลูกสาวตนเอง เวลานี้ ตนเอง อยากให้ ตำรวจเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ และอยากให้โดนเหมือนที่ลูกสาวตนเองโดนด้วย