จิตแพทย์เตือนคนป่วยไบโพลาร์ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีของ "เสก โลโซ" ที่มีพฤติกรรมไลฟ์เฟซบุ๊กต่อเนื่องหลายวัน ไม่สามารถระบุได้เป็นอาการของโรคหรือไม่ ต้องให้แพทย์ผู้รักษาเป็นผู้ตรวจสอบ

กรณีการไลฟ์เฟซบุ๊กของนายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือเสก โลโซ นักร้องชื่อดัง ที่ไลฟ์สดหลายวันติดต่อกัน กระทั่งเช้าวันนี้ก็ยังมีการไลฟ์สดต่อเนื่อง ทำให้มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคไบโพลาร์หรือไม่ และอยากให้มีคนพาไปพบแพทย์

นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาส จิตแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า โรคไบโพลาร์ไม่ได้หมายถึงการมีอารมณ์กลับไปกลับมาอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่คือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว ซึ่งเป็นโรคทางอารมณ์ที่เกิดจากสมองหลั่งสารเคมีบางอย่างออกมาไม่สมดุล สามารถแสดงอาการได้ทั้งด้านที่รู้สึกซึมเศร้า เซ็ง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ จนอาจถึงขั้นฆ่าตัวตาย อีกด้านหนึ่งคืออาการคึกเกินเหตุ หรือ แมเนีย อาการนี้จะส่งผลให้ผู้ป่วยพูดเยอะ มั่นใจในตัวเอง มีความคิดมากมาย ซึ่งหลายครั้งอาจจะดูไม่ออกว่าเป็นอาการของโรค

ส่วนการวิเคราะห์พฤติกรรมต่าง ๆ ผ่านการแสดงออกทางโซเชียลมีเดีย ในทางการแพทย์ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าบุคคลนั้นป่วยหรือไม่เนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลดังกล่าวมีความคิด อารมณ์ เป็นอย่างไร อีกทั้งกลุ่มอาการที่แสดงออกของคนยังมีหลายสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านั้นบางครั้งก็สามารถแสดงออกในคนปกติได้ ดังนั้นหากจะวิเคราะห์ต้องให้แพทย์ตรวจรักษาและประเมินอาการ

สำหรับอาการอารมณ์ 2 ขั้ว อาจอยู่เป็นสัปดาห์ บางรายอาการอยู่ได้นานถึง 3 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์อีกด้านหนึ่ง หรือบางรายอาจจะกลับมาปกติก่อน ซึ่งอาการจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาแค่เพียงระยะเวลาในหลักนาทีแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันโรคไบโพล่าร์ไม่ใช่โรคที่คิดไปเอง โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม พบได้ในบุคคลทุกวัย ไม่ว่าชายหรือหญิงมีอัตราเสี่ยงเป็นโรคได้เท่ากัน โดยพบผู้ป่วยในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 ของจำนวนประชากร

ด้านการรักษา สามารถใช้ยาควบคู่กับการใช้จิตบำบัด โดยหากรู้ตัวเร็วและเข้ารับการรักษาเร็ว ก็จะมีอาการดีขึ้นรวดเร็ว ซึ่งผู้ป่วยโรคดังกล่าวต้องงดการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด เนื่องจากจะทำให้อาการของโรคแย่ลง หากใครป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์ ต้องอย่าปล่อยอาการทิ้งไว้ เนื่องจากมีความอันตรายถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ ทั้งนี้ ยังสามารถโทรศัพท์ปรึกษาสายด่วนกระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง