สรรพากรบุรีรัมย์ยันไม่ได้เรียกเก็บภาษีลุงวัย 53 ที่ถูกสวมชื่อเป็นผู้มีเงินได้ 1.6 ล้าน เพียงแจ้งให้มายื่นแบบเท่านั้น

ความคืบหน้ากรณีที่นายเลียบ เมียดเตียบ อายุ 53 ปี ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม อ้างว่า ถูกบริษัทที่เคยไปทำงานรับจ้างขับรถขนส่งสินค้า นำเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน และใบอนุญาตขับรถ ที่ใช้ในการสมัครงาน ไปทำนิติกรรมให้เป็นผู้มีเงินได้จากบริษัทตั้งแต่ปี 2559 ปีละกว่า 1 ล้าน 6 แสนบาท

จนมีเจ้าหน้าที่สรรพากรสาขาประโคนชัย มาพบที่บ้านแจ้งว่า ให้ไปยื่นแบบภาษี เนื่องจากมีชื่อในระบบว่า เป็นบุคคลที่มีเงินหมุนเวียนปีละกว่า 1ล้าน 6 แสนบาท ทั้งที่นายเลียบ และครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีฐานะยากจน

ล่าสุด นางสุดารัตน์ ปัญจวัฒน์ สรรพากรพื้นที่สาขาประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาชี้แจงว่า ที่เจ้าหน้าที่สรรพากรได้นำเอกสารไปส่งที่บ้านนายเลียบ เมียดเตียบ เนื่องจากมีชื่อโชว์ในระบบเป็นผู้ที่ไม่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งสรรพากรจังหวัดได้ส่งรายชื่อมาให้ทำการติดตามเนื่องจากขาดการยื่นแบบ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะรายของนายเลียบเท่านั้น

จากข้อมูลพบมีรายชื่อที่ให้ดำเนินการติดตามให้มายื่นแบบทั้งหมด 26 ราย ทางสรรพากรจึงได้ไปแนะนำให้มายื่นแบบให้ครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้มีการไปเรียกเก็บภาษีตามที่นายเลียบ และครอบครัวเข้าใจ

ซึ่งหากนายเลียบ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นบุคคลที่มีเงินได้ปีละกว่า 1 ล้าน 6 แสนบาท ตามที่ปรากฏในระบบจริง ก็สามารถนำเอกสารบันทึกแจ้งความ มายื่นที่สรรพากร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริงไว้ จากนั้น ก็จะส่งเรื่องไปต้นสังกัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของสรรพากรต่อไป