ตำรวจเร่งตามจับ 2 คนร้าย ขับรถใช้สลิงดึงตู้เอทีเอ็มหน้าห้าง จ.อุดรธานี เรียก รปภ.สอบ อ้างหลับยามช่วงก่อเหตุ ฝนตกทำให้ไม่ได้ยิน แต่พบพิรุธใช้เอกสารบุคคลอื่น มาสมัครงาน ตำรวจเร่งตรวจสอบว่า รู้เห็นกับคนร้ายหรือไม่
จากกรณี 2 คนร้ายเลียนแบบหนัง ขับรถกระบะ 4 ประตู สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้สลิงดึงตู้เอทีเอ็ม หน้าห้างสรรพสินค้าสาขาบ้านบึง จังหวัดอุดรธานี จนตู้เอทีเอ็มหลุดออกจากแท่น และยังพยามใช้แก๊สตัดหลังตู้ เพื่อจะนำกล่องใส่เงินออก แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายจึงพากันขับรถหลบหนีไป
จากการตรวจสอบ พบว่า ก่อนก่อเหตุคนร้าย ได้ใช้สีสเปรย์พ่น กล้องวงจรปิดห้าง และที่ตู้เอทีเอ็ม 3 ตู้ ทำให้ไม่สามารถเห็นภาพคนร้ายได้ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด พันตำรวจเอก วิบูลย์ วงศ์ก้อม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ้านดุง เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และชุดสืบสวนประชุม สั่งการให้เร่งตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เจ้าหน้าที่ทางธนาคารตรวจสอบตู้เอทีเอ็ม พบว่า เงินที่ใส่ไว้ 2 แสน 7 หมื่นบาท ยังอยู่ครบ
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้เรียกตัว รปภ.ของห้าง มาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากตรวจสอบหลักฐานที่ รปภ.นำมาสมัครงานเป็นของบุคคลอื่น และ รปภ. ให้การว่า ช่วงคืนเกิดเหตุ มีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน และหลับในช่วงเข้าเวรอยู่ด้านหลังของห้าง จึงไม่เห็นคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ
จากนั้น พันตำรวจเอกวิบูลย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ตั้งแต่จุดติดตั้งตู้เอทีเอ็ม 3 ตู้ ของ 3 ธนาคาร และตรวจสอบสายสลิงที่คนร้าย คล้องรถขับรถกระบะ กระชากตู้พังออกมาจากแท่น และจุดที่พยายามจะเจาะตู้เอทีเอ็ม หวังขโมยเงิน
โดยพันตำรวจเอกวิบูลย์ เปิดเผยว่า คนร้ายน่าจะมี 2-3 คน สั่งการให้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลคนร้าย มีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ สั่งให้ตำรวจไล่ดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ที่คนร้ายเข้ามา และใช้หลบหนี สำหรับถนดังกล่าว สามารถไปยังอำเภอ และข้ามไปจังหวัดสกลนครได้หลายเส้นทาง เชื่อว่า คนร้ายเข้ามาดูลาดเลา ก่อนจะก่อเหตุ
ส่วน รปภ. จะต้องเค้นสอบอย่างหนักว่า หลักฐานที่ใช้สมัครงาน เชื่อมโยงกับคนร้ายหรือไม่ เพราะอ้างว่าหลับยาม ช่วงที่คนร้ายก่อเหตุ พบว่า มีพิรุธ เพราะเสียงดัง ขณะที่ รปภ. อยู่ทางด้านหลัง ห่างจากจุดเกิดเหตุ ไม่น่าเกิน 30 เมตร ต้องยินเสียงรถ และเสียงตู้เอทีเอ็มล้ม และคนร้ายใช้เวลานานว่า 30 นาที ก่อนที่จะหนีไป
นอกจากนี้ ยังประสานร้านเช่ารถในจังหวัดอุดรธานี และอำเภอใกล้เคียง เชื่อว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ อาจจะเป็นรถเช่า และใช้ทะเบียนปลอม สำหรับคนร้าย มีความชำนาญมาก เชื่อว่า ไม่นานจะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้