หญิงสูงวัยรายหนึ่ง จอดรถเสียอยู่ขอบทาง บนทางด่วนฉลองรัช และ ขณะเดินลงจากรถ เพื่อจะไปใช้โทรศัพท์ฉุกเฉิน กลับถูกฟอร์จูนเนอร์ พุ่งชนท้ายรถอย่างจัง ทำให้ร่างหญิงสูงวัย กระเด็นร่วงตกไปด้านล่างทางด่วน เสียชีวิตคาที่
เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อเวลาประมาณ 8 โมงเช้า วานนี้ (3 ก.ย.) บนทางด่วนฉลองรัช (ด้านขาเข้า) ก่อนถึงทางลงสุขุมวิท 50 บริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 2 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ธัญญพัทธ์ วิพันธ์พงษ์ อายุ 67 ปี เจ้าของรถ ยี่ห้อเกีย สีเทา ร่วงตกทางด่วนลงไปเสียชีวิตบริเวณซอยปรีดี พนมยงค์ 2 สภาพศพมีบาดแผลบริเวณศีรษะ ขาขวาหักผิดรูป
คู่กรณีคือ รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย โดยมี น.ส.นุชนาฏ พรหมนะ อายุ 36 ปี เป็นคนขับรถ
สอบสวนทราบว่า ขณะ น.ส.ธัญญพัทธ์ (ผู้เสียชีวิต) ขับรถบนทางด่วน ได้เกิดเครื่องยนต์ขัดข้อง และจอดไว้ที่ขอบทางด้านซ้าย โดยได้ลงจากรถ เพื่อใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินแจ้งขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมีหลานสาว ที่กำลังตั้งครรภ์นั่งอยู่ภายในรถดังกล่าว
ต่อมา ร้อยตำรวจตรี สุพจน์ ไชยนอก อายุ 55 ปี ผบ.หมู่งานควบคุมจราจรด่วน 1 ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงจอดรถให้การช่วยเหลือ โดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้ด้านหน้ารถผู้เสียชีวิต
และ เป็นช่วงที่ น.ส.ธัญญพันธ์ กำลังยืนอยู่ ปรากฏว่ารถฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งขับมาด้วยความเร็ว ได้พุ่งชนท้ายรถของผู้ตาย อย่างจัง จนทำให้รถไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจ และ เสยร่างของผู้ตาย กระเด็นตกลงไปยังพื้นถนนด้านล่างเสียชีวิตคาที่
ส่วน ร้อยตำรวจตรี สุพจน์ และ ผู้หลานสาวผู้ตาย อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ นำตัวส่งโรงพยาบาล
สอบสวน น.ส.นุชนาฏ (คนขับรถฟอร์จูนเนอร์) ให้การกับตำรวจ ว่า ตนเองคิดว่ารถคันดังกล่าว ขับอยู่ เพราะไม่เห็นว่ามีการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน แต่อย่างใด ยืนยันว่า ไม่ได้เล่นโทรศัพท์ หรือ ทำอย่างอื่นขณะขับรถ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต่อคำให้การ เพราะจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพก่อนเกิดเหตุ พบว่า รถฟอร์จูนเนอร์ ขับมาในลักษณะคร่อมระหว่างเลนฉุกเฉิน และเลนซ้าย ก่อนพุ่งชนท้ายรถ อย่างจัง ซึ่งทางตำรวจ ได้ขอให้แพทย์ตรวจหาแอลกอฮอล์ คนขับฟอร์จูนเนอร์แล้ว ก่อนจะรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมการจราจรบนทางด่วน ได้แนะนำผู้ที่รถจอดเสียระหว่างทาง ว่า ให้จอดรถชิดขอบทางซ้าย หมุนพวงมาลัยให้ล้อหักเข้าขอบทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน รถจะได้ไม่พุ่งออกขวา หรือ พุ่งชนรถคันอื่น
และ เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ แล้ว ให้คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งรออยู่ในรถ ห้ามออกมาข้างนอกเด็ดขาด ให้รอจนกว่าเจ้าหน้าที่ จะมาถึง