ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังบุกค้นบ้านผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน ที่เบี้ยวจ่ายเงินคนถูกรางวัล เจอโพยหวยเก่า 57 แผ่น
วันที่ 6 ก.ย. 2561ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.สิริยากร วงษ์ชมภู อายุ 40 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกนางเอ (นามสมมุติ) พนักงานหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน เบี้ยวจ่ายเงินค่าหวยงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 60 รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งทาง พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี รับเรื่องไว้ลงบันทึกประจำวัน แต่ระบุว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยเรื่องเงินได้ เพราะเป็นเรื่องของการพนันที่ผิดกฏหมาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีระพงศ์ องอาจ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี 6 นาย พร้อมหมายค้นศาลแขวงอุดรธานี ที่ 15/2561 ลงวันที่ 5 กันยายน 2561 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ที่ ชุมชนบ้านช้าง เทศบาลอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางเอ ผู้ถูกกล่าวหาว่า เป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน แล้วเบี้ยวเงินค่าหวยจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็พบโพยหวยเก่าจำนวน 57 แผ่น พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง และเชิญตัวนางเอ มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีการแจ้งสิทธิขอพบและปรึกษาทนายความ ซึ่งนางเอ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้นำหมายค้น เข้าทำการตรวจค้นบ้านของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขายหวยใต้ดิน โดยได้ทำการตรวจยึดหลักฐานบางส่วนมาตรวจสอบ และจะนำหลักฐานส่วนนี้ มาใช้ประกอบคดีกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขายหวยเถื่อน ซึ่งมีโพยประกอบการขายหวยเถื่อนจำนวนหนึ่ง แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิที่สามารถปฏิเสธได้ แต่เมื่อมีผู้กล่าวหาว่า เขาเป็นคนจำหน่ายหวยใต้ดิน ทางตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อจะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขายหวยใต้ดิน
พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนที่ผู้ร้องเรียนระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหามีการส่งหวยต่อให้กับเจ้ามือรายใหญ่อีกทอดหนึ่ง เรื่องนี้ทางตำรวจต้องทำการขยายผลต่อ หลังดำเนินการในเรื่องนี้ และจะนำข้อมูลที่ได้จากผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเรื่องสำคัญ มาใช้ดำเนินการขยายผลต่อ ไม่ว่าจะเป็นสมุดบัญชีธนาคาร เอกสารทางการเงินต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับในเรื่องของการสอบสวน ถึงแม้ผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ อาจต้องถูกดำเนินการทางวินัยของต้นสังกัด แต่เรื่องที่ทำผิดกฎหมายทุกคนต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกันหมด
จากการสอบสวนเรื่องนี้ หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ทางตำรวจก็จะดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ ส่งให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการ แต่ทั้งนี้ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ และเรื่องนี้จะพาดพิงเกี่ยวข้องขยายผลถึงใคร ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา