กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษอ้างว่าถูกข่มขืนที่บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุด พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ เผยว่า ตำรวจอังกฤษรับปากจะส่งหลักฐานโดยเฉพาะเสื้อที่สาวอังกฤษอ้างสวมขณะถูกข่มขืนบนเกาะเต่ามาให้ตำรวจไทย ขณะที่ตำรวจให้ประกันตัว 12 ผู้ต้องหาที่ถูกจับข้อหาแชร์ข้อความอันเป็นเท็จแล้ว
ช่วงบ่ายวานนี้ (6 ก.ย.61) พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินทางลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบปากคำ 12 ผู้ต้องหา ที่ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาแชร์ข้อความอันเป็นเท็จ กรณีหญิงสาวชาวอังกฤษถูกมอมยา และ ข่มขืนบนเกาะเต่า จากเว็บไซต์ของสมุยไทม์ และ CSI LA ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดย ผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย ถูกคุมตัวมาที่ สภ.เกาะเต่า หนึ่งในผู้แชร์ข้อความ ที่ถูกจับ ชาว จ.นครปฐม ให้การยอมรับว่า ได้กดแชร์ข่าวจากเพจดังกล่าวจริง ซึ่งกระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และ อยากขอโทษต่อสังคมที่การกระทำของตนเองทำให้บุคคลอื่น รวมทั้งประเทศชาติเสียหาย
จากนั้นทางพนักงานสอบสวน ได้ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดประกันตัวในชั้นสอบสวนเป็นวง เงิน 60,000 บาท
ต่อมาเวลา 18.30 น. พลตำรวจโท สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้า การค้นหาพยานหลักฐานที่หญิงสาว อายุ 19 ปี ชาวอังกฤษ อ้างว่าตนเองถูกวางยา และ ถูกข่มขืนที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของอังกฤษ ได้รับปาก กรณี หญิงชาวอังกฤษ เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจที่ประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งมอบหลักฐานสำคัญ เป็นเสื้อที่สวมใส่ในคืนเกิดเหตุ และอ้างว่า เสื้อตัวดังกล่าว มีคราบอสุจิของคนร้ายที่ก่อเหตุ
โดยทางตำรวจของไทย ได้ประสานข้อมูลในเรื่องนี้กับเอกอัครราชทูตประเทศอังกฤษ ประจำประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหาย และ หลักฐานที่ผู้เสียหายอ้างถึง เพื่อนำมาให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักของไทย ทำความจริงให้ปรากฏ
ส่วนแนวทางการตรวจสอบค้นหาพยานหลักฐาน จากคำกล่าวอ้างของผู้เสียหาย ที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนต่างประเทศก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทุกคำกล่าวอ้างแล้ว ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับผู้เสียหาย ตามที่กล่าวอ้าง
ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้ยุติการตรวจสอบไว้ก่อนชั่วคราว จนกว่าจะมีพยานหลักฐานใหม่ ที่ส่งมาจากประเทศอังกฤษ จะได้ทำการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัด ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริงหรือไม่
ขณะเดียวกัน พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับ แอดมินเพจ CSI LA และ สมุยไทม์ ที่ออกมาเปิดเผยกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ส่วนที่ สังคมโซเชียลบางกลุ่มมีการวิจารณ์การดำเนินคดีกับแอดมินเพจ CSI LA เพราะก่อนหน้านี้เพจดังกล่าวเคยเปิดเผยข้อมูล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีนาฬิกา 25 เรือน ที่ยืมเพื่อนมา จนเป็นเรื่องโด่งดัง พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน และ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง การดำเนินคดีกับเพจนี้เพื่อส่วนรวม เพื่อปกป้องประเทศ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และเรื่องนี้ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร ก็ไม่เคยมีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแอดมินเพจ CSI LA ในเรื่องนี้ แต่อย่างใด
พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ระบุว่า เชื่อว่าพลเอก ประวิตร ไม่เอาเรื่องแบบนี้มาให้กังวลใจ ถ้าติดใจเรื่องนี้ก็คงสั่งดำเนินคดีไปแล้ว