"พุทธิพงษ์" เข้ารายงานตัวกับนายกรัฐมนตรีหลังได้รับตำแหน่ง ยืนยันไม่มีเรื่องการเมือง รับไม่ได้ปรึกษาสุเทพ พร้อมปัดตอบได้ตำแหน่งครั้งนี้ถูกดึงตัวมาหาเสียงในพื้นที่กทม. และช่วยประสานพรรคการเมือง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ เข้ารายงานตัวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
โดยนายพุทธิพงศ์ กล่าวว่า จากการเข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า มีการมอบหมายให้ติดตามเรื่องนโยบายการแก้ไขปัญหาของประชาชนและข้อร้องเรียน รวมถึงการประสานงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ประชาชนในทุกรูปแบบ หากมีความเร่งด่วนก็จะส่งเรื่องราวให้นายกรัฐมนตรีได้ทันที
โดยตนจะนั่งทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมขอให้อย่ามองการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง หรือเป็นเรื่องการเลือกตั้ง เพราะการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขทางการเมืองในอนาคต และเป็นเรื่องของการทำงานเท่านั้น ขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงปลายจึงมีงานที่ต้องเร่งรีบจัดการและสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจ แต่หน้าที่ของตนเองก็ยังไม่ใช่เป็นโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันยืนยันว่าตำแหน่งนี้เคยมีในสมัยรัฐบาลชุดก่อนๆ แต่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีการแต่งตั้งตำแหน่งนี้
นายพุทธิพงศ์ กล่าวต่อว่า การมาดำรงตำแหน่งครั้งนี้ไม่มีปัญหาติดใจกับพรรคประชาธิปปัตย์ และยอมรับว่ามีความผูกพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์มานานกว่า 18 ปี และไม่ปฏิเสธที่หลายฝ่ายมองว่าอดีตตนเองเคยร่วมงานกับ กปปส.แล้วมาร่วมงานกับรัฐบาลแต่ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการปกติ แม้จะยังมีคดีทางการเมือง แต่ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะยังไม่มีการตัดสิน และศาลจะสืบพยานในปีหน้า
ส่วน 4 ยอดกุมารที่เหลือ คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายชุมพล จุลใส จะมาทำงานร่วมรัฐบาลหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับตน เพราะที่เหลือยังทำงานส่วนตัว อีกทั้งไม่มีเงื่อนไขผูกติดกัน ซึ่งกปปส. มีความตั้งใจปฏิรูปประเทศ และเรื่องนี้ก็ไม่ขัดกับ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากมีอุดมการณ์เดียวกัน และยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. และอดีตเลขา กปปส. เพราะเป็นการตัดสินใจของตน ส่วนจะกลับไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ เป็นเรื่องเร็วไปที่จะตอบ เนื่องจากไม่มีการปลดล็อกทางการเมืองและหากกลับไปช่วยหาเสียงในช่วงที่มีการปลดล็อกคงไม่เหมาะสม เพราะยังทำหน้าที่ให้กับรัฐบาลอยู่ ส่วนเรื่องจะกลับไปร่วมงานกับพรรครัฐบาลหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต