พ่อของนักธุรกิจเจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยลูกชายระบายปัญหาชีวิตให้ฟังหลายเรื่อง แต่ทำได้เพียงแนะนำ คาดไม่ถึงว่า ลูกชายจะจบชีวิตด้วยการปลิดชีพตัวเอง โดยเตรียมฌาปนกิจศพพรุ่งนี้
พ่อนักธุรกิจเจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำที่เกาะเต่า จังหวัดสุราฎร์ธานี ที่ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก สวมชุดไบค์เกอร์เต็มชุด แล้วยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านที่ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เดินทางจากจังหวัดอุดรธานี พร้อมญาติอีก 3 คน เข้าไปดูร่างของลูกชาย และร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัดโพธิ์นิมิต ซึ่งทุกคนต่างโศกเศร้าต่อการจากไปของลูกชาย
พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้เสียชีวิต เป็นลูกคนที่ 2 จากจำนวนพี่น้อง 3 คน เป็นคนหัวดี ทำงานเก่ง อัธยาศัยดี มีเพื่อนพอสมควร ไปหาศึกษาหาวิชาจากต่างประเทศ จนสามารถทำงานร่วมกับชาวต่างชาติได้
พ่อยอมรับว่า ก่อนเสียชีวิตลูกชายเล่าปัญหาชีวิตให้ฟังหลายเรื่อง แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ทำได้เพียงแนะนำ แต่สุดท้ายลูกชายมาตัดสินจบชีวิตตัวเอง และไม่คิดว่า จะต้องมาจัดงานศพให้ลูก ส่วนการบำเพ็ญกุศลศพจะทำพิธีฌาปนกิจ หรือเผาในวันพรุ่งนี้
ขณะที่ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกเพียงสั้นๆ ว่า แม้สามีสั่งเสียไม่ให้จัดงานศพ แต่ตนเองขอทำหน้าที่ให้ดี ส่งสามีไปอยู่ภพภูมิที่ดี พร้อมทั้งบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด โดยเฉพาะข้อความระบายความในใจที่สามีเขียน ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิต และหลังจากนี้ไม่ขอพูดอะไรอีก
การเสียชีวิตของนักธุรกิจคนนี้ ทำให้ชาวเกาะเต่าบางส่วน ฝากเตือนประชาชน และ ผู้ใช้สังคมออนไลน์ หรือโลกโซเชียล ขอให้ใช้วิจารณญาณในการติดตามข่าวสาร และฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ควรใช้ความรู้สึกส่วนตัวโจมตีทางภรรยาผู้เสียชีวิตฝ่ายเดียว เพราะครอบครัวของฝ่ายหญิง เป็นคนดั้งเดิมในพื้นที่ จึงไม่คิดว่า จะเป็นอย่างที่เข้าใจกัน
ทั้งนี้ เรื่องนี้ถูกพูดถึงค่อนข้างมากในสังคมออนไลน์ เพราะก่อนก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตเขียนข้อความลักษณะระบายความคับแค้น ที่เกิดขึ้นจากปัญหาครอบครัว ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจดำน้ำ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันในที่ดินของครอบครัวฝ่ายภรรยา โดยอ้างว่า ถูกฮุบกิจการ รวมทั้งมีปัญหาครอบครัวหลายเรื่อง
ในเนื้อหายังได้พาดพิงถึงคนใกล้ชิด ทำให้ได้รับความเห็นใจจากสังคม โดยเฉพาะข้อความที่ระบุว่า "ถ้าชีวิตหลังความตายมีจริง พี่จะอยู่ทุกๆ มุมมืด ไม่ต้องการไปเกิดใหม่ พอแล้ว" ด้วยความแค้นเต็มอก