กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า ที่ดินทำกินถูกกลุ่มต่างด้าวบุกรุกถือครอง และจะลงพื้นที่ตรวจสอบวันจันทร์นี้

เอกสารรายชื่อของชาวบ้านในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่แจ้งการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ ตามโครงการจัดระเบียบที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542  รวมทั้งเอกสารใบแจ้งความที่ชาวบ้านเข้าแจ้งกับตำรวจภูธเมืองแม่่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า พื้นที่ทำกินถูกบุคคลอื่นบุกรุก 

ต่อมา สองสามีภรรยา ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เรียกร้องผ่านสื่อมวลชน โดยระบุว่า ที่ดินมรดกของบิดาที่เสียชีวิตไป เนื้อที่ 3 แปลง รวมกันประมาณ 4 ไร่ ถูกกลุ่มชาวต่างด้าวกว่า 10 คนส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมา เข้าไปยึดครอง

ก่อนหน้านี้ ได้เรียกร้องความเป็นธรรมที่ศูนยดำรงธรรมจังหวัด และหลายหน่วยงาน แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และยังถูกกลุ่มชาวต่างด้าวที่เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินกลั่นแกล้ง ข่มขู่ และเรียกค่าผ่านทางเข้า-ออก จำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมมือกับผู้นำชุมชน จัดทำโครงการจัดระเบียบที่ทำกิน ไปทับที่เดิมที่มีเอกสารสิทธิ์ และนำกลุ่มชาวต่างด้าวเข้าไปร่วมโครงการแทนคนไทย

จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ และช่วยแก้ปัญหา หลังส่งเรื่องเรียนไปยัง 5 หน่วยงาน คือ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมที่ดิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการปกครอง และ กรมป่าไม้ แต่ไม่มีความคืบหน้า

ขณะที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อที่วันที่ 9 พฤษภาคม 2542 มีใจความสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ การชี้เขต ปักหมุดที่ทำกิน และพื้นที่ส่วนรวมของชุมชน และขึ้นทะเบียนไว้เพื่อคุ้มครองในการทำกินชั่วคราว

ล่าสุด ชาวบ้านมีหนังสือเปิดผนึกไปยังหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เร่งแก้ปัญหา รวมทั้งตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่

โดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เร่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน และวันจันทร์ที่ 22 กันยายนนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ตรวจสอบคนต่างด้าวรุกที่ดินทำกินคนไทย จ.แม่ฮ่องสอน