ผัวหึงโหดตามง้อคืนดีเมียไม่ได้ผล ดักรอใช้ปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้าน ก่อนซดยาฆ่าหญ้า พร้อมทิ้งจดหมายถึงลูกแล้วขี่รถหลบหนี
วันที่ 3 ต.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. พ.ต.ต.สุชาติ สมบูรณ์ สว.สส.สภ.บางโทรัด รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 13/2 หมู่ที่ 2 ต.ชัยมงคล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.โกศล ยามา รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.บางโทรัด, พ.ต.ท.ดุษฎี หิรัญรัตน์ รองผกก.ป.สภ.บางโทรัด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.บางโทรัด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
โดยในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดิน บริเวณประตูหน้าบ้านพบศพนางสาวปานทิพย์ มากเปี่ยม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ที่ 12 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้องด้านขวา และข้อมือด้านขวา ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 3 ปลอก และอาวุธปืนตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้ยังมียาฆ่าหญ้าถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้านอีก 1 ขวดด้วย
ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบ้านพัก ยังพบจดหมาย 2 ฉบับ ซึ่งระบุถึงลูกของผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิตว่า “พ่อขอโทษลูกนะ พ่อรักแม่มาก แต่แม่ไม่คุยกับพ่อ แม่ชอบโกหกพ่อ หลอกพ่อ พ่อถึงเป็นแบบนี้ รักลูกสุดหัวใจ โทรไม่รับ แม่บอกพี่โตแล้วอยู่ได้ คนเราก็ต้องมีเดินผิดบ้าง ไม่มีใครอยากเดินผิดหลอก ตัดใจกับปัญหาทุกอย่าง ตั้งใจทำดีแล้วนะ ที่ได้รับคือคำโกหก เราไม่ชอบคนโกหก” ทั้งนี้ตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายอมรเทพ เนียมนาค อายุ 21 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายธนพนธ์ เนียมนาค อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตน โดยพ่อกับแม่นั้นได้แยกกันอยู่มาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากพ่อไปมีผู้หญิงใหม่ แม่จึงย้ายขึ้นมาอยู่ที่บ้านยายซึ่งก็คือบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนพ่อก็พักอาศัยอยู่บ้านหลังเดิมที่สร้างไว้ติดกัน จนกระทั่งไม่นานนี้พ่อได้เลิกกับผู้หญิงคนใหม่ แล้วก็มาง้อขอคืนดีกับแม่ แต่แม่ไม่ยอมกลับไปอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้มีการทะเลาะกัน และยังคงพูดจากันด้วยดี กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาพ่อต้องไปขึ้นศาลในคดีครอบ