แก๊งมอดไม้เหิมหนัก ลักลอบเข้าไปตัดต้นพะยูงอายุเกือบ 100 ปี ในโรงเรียนช่วงกลางดึก ซ้ำทำต้นไม้โค่นล้มทับหลังคาโรงอาหารพังเสียหายเกือบทั้งหลัง ก่อนพากันหลบหนี เร่งล่าตัวดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มแก๊งมอดไม้ไม่ทราบจำนวน ลักลอบเข้าไปตัดต้นพะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามและมีอายุเกือบ 100 ปี อยู่ภายในโรงเรียนบ้านสะเดา ตำบลสะเดา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทั้งยังทำให้ต้นพะยูงที่ลักลอบตัดโค่นล้มทับหลังคาโรงอาหารภายในโรงเรียนได้รับความเสียหาย ก่อนจะพากันหลบหนีไปโดยทิ้งสภาพร่องรอยความเสียหายไว้

จากนั้นจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจโรงเรียนที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงก็พบนักการภารโรง ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในหมู่บ้าน กำลังช่วยกันตัดกิ่งของต้นพะยูงที่คนร้ายลักลอบตัด และหลงเชื่อบางส่วน ออกจากบริเวณหลังคาโรงอาหาร

จากกการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณตี 1 ได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้าไปภายในโรงเรียนไม่นานก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเลื่อยต้นไม้ดังสักพัก จึงตัดสินใจลุกขึ้นเอาไฟฉายไปส่องดู ก็พบว่าต้นพะยูงภายในโรงเรียนถูกคนร้ายลักลอบตัดโค่นแล้ว และเห็นคนร้ายเกือบ 10 คน กำลังช่วยกันลำเลียงขนไม้พะยูงขึ้นรถหลบหนีไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย หลังจากคนร้ายขับรถหนีไป จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ด้านนายชวลิต วิทย์ศลาพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสะเดา เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนร้ายลักลอบเข้าไปตัดต้นพะยูงในโรงเรียน และต้นไม้ยังล้มทับหลังคาโรงอาหารพังเสียหายด้วย ก็ตกใจมากจึงรีบเดินทางมาดู ก็พบหลังคาโรงอาหารพังเสียหายเกือบทั้งหลัง ซึ่งก็จะต้องรื้อโครงสร้างออกหมดทั้งหลัง ส่วนต้นพะยูงที่ถูกลักลอบตัดโค่นมีอายุเกือบ 100 ปี คาดว่าน่าจะเป็นแก๊งมอดไม้ที่มาลักลอบตัดไม้ตัดต้นพะยูงไปขาย ตามใบสั่งของนายทุน ซึ่งเบื้องต้นก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

ส่วนไม้พะยูงที่คนร้ายยังลำเลียงไปไม่หมด ก็ได้ประสานทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร. 4 บุรีรัมย์ เพื่อเก็บรักษาไว้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้เร่งออกสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้จักเส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี

 

Cr.สุรชัย / จ.บุรีรัมย์