เจ้าของร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ใน จ.นครปฐม นำคลิปกลุ่มลูกค้าทำร้ายลูกชาย ชักปืนยิงข่มขู่ ร้องขอความเป็นธรรมผ่านนักข่าวช่อง 8 หลังคดีผ่านมา 2 เดือน ไม่คืบหน้ากลัวไม่ปลอดภัย

กล้องวงจรปิดหน้าร้านต้มโต้รุ่ง ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม บันทึกเหตุการณ์ คนร้ายชายสวมเสื้อแดงชักปืนยิงข่มขู่ ลูกชายเจ้าของร้าน (สวมเสื้อแดงเหมือนกัน) หลังกลุ่มลูกค้าโต๊ะดังกล่าว เข้ามานั่งกินอาหารกับกลุ่มเพื่อน 5 คน จากนั้นก็มีชายสวมเสื้อขาวชักปืนออกมา เดินเข้าไปห้าม

ขณะที่ หญิงเจ้าของร้านข้าวต้มวิ่งออกมาจากร้าน และเข้าไปห้ามปราบพูดคุย พร้อมทั้งให้ลูกชายยกมือไหว้ขอโทษกลุ่มลูกค้า แต่กลับยังโดนรุมเตะ จนแม่ยกมือไหว้ร้องขอไม่ให้ทำร้ายลูกชายอีก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง ตี 2 คืนวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด นางสาวสุนัน อ่อนสิริ เจ้าของร้าน พา นายนันทวัฒน์ อ่อนสิริ (ลูกชาย) พร้อมนำคลิปเหตุการณ์ มาร้องเรียนกับนักข่าวช่อง 8 เนื่องจากผ่านมากว่า 2 เดือนคดีไม่คืบหน้า พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะเปิดร้านค้าขายตามปกติ กลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นลูกค้าประจำ ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีบรอนซ์เงิน มาจอดที่หน้าร้าน ภาพวงจรปิดพบว่า ชักปืนขึ้นมาโชว์เพื่อน

จากนั้นก็เข้ามานั่งดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนรวม 4 คน ที่โต๊ะริมถนน หลังตนรับออเดอร์ก็กลับไปทำ และ ให้ลูกชายนำมาเสริฟ ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ด้วยความตกใจจึงวิ่งเข้าไปดู พบกลุ่มลูกค้าชักปืนขู่ลูกชาย ด่าทอ ตนก็ให้ลูกชายไว้ขอโทษเพื่อนเรื่องจบ แต่กลุ่มลูกค้า ผลัดกันเข้ามาเตะหน้าลูกชายอีกหลายครั้ง พยายามร้องขอก็ไม่เป็นผล ยอมรับว่ากลัวมาก แม้พยายามไปห้ามกอดลูกไว้ในอกกลุ่มลูกค้าก็ยังไม่หยุดทำร้ายลูกชาย

สำหรับลูกชายบาดเจ็บ บาดเจ็บกระดูกแขนขวาหัก ข้อมือหลุดต้องผ่าตัด ทำให้ตนลำบากไม่มีคนช่วยทำงาน ส่วนทางคดี กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ ตำรวจระบุว่า รอผลรักษาจากแพทย์ พยายามส่งข้อความไปหาคู่กรณี เรื่องก็เงียบ ในตอนนี้จึงรู้สึกหวาดกลัว เรื่องความไม่ปลอดภัย

ล่าสุด พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผู้กำกับตำรวจภูธร กำแพงแสน คุมตัว นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา อายุ 38 ปี มาสอบสวนแจ้งข้อหา ยิงปืนในที่สาธารณะ พยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืน ครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต และ พกปืนฯ โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยผู้ต้องหายื่นขอประกันตัว วางหลักทรัพย์เงินสด 1 แสนบาท โดยวันนี้ (24 ต.ค.) ตำรวจจะคุมตัวไป ส่งศาลจังหวัดนครปฐม

และในเวลาต่อมา นายจักรินทร์ ศิลาประเสริฐ อายุ 43 ปี ได้เข้ามามอบตัว กรณีพกอาวุธปืนไปที่ร้านอาหาร ยอมรับว่า ชักปืนออกมา เพื่อหวังห้ามปราบขณะที่มีปากเสียงทะเลาะกัน พร้อมแจ้งข้อหา ครอบครองอาวุธปืนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น นายจักรินทร์ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนกรณีที่คดีล่าช้า พนักงานสอนสวน ชี้แจงว่า ได้ติดต่อสอบถามผู้เสียหายมาโดยตลอด และแจ้งให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล นำผลทางแพทย์มาประกอบสำนวนคดี แจ้งข้อหา แต่ทางผู้เสียหายไม่ได้ไปพบแพทย์ตามหมายนัด ทำให้ตำรวจไม่มีหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายได้ และทำให้คดีล่าช้าตามที่เป็นข่าว 

ส่วนอีกคนชื่อ นายเก่งกล้า พรหมชาติ อายุ 30 ปี บุคคลที่ใช้เท้าเตะ ผู้เสียหาย พบว่า ถูกจับคดียาเสพติดก่อนหน้านี้ ขณะนี้ถูกขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครปฐม ตำรวจจะเข้าไปสอบสวนแจ้งข้อหาต่อไป

นอกจากนี้ก็มี นายปุณมนัส เทียนทอง มาพบตำรวจในฐานะพยาน แสดงความบริสุทธิ์ ว่า เข้าไปห้ามปราม ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด