นายกรัฐมนตรี สั่งเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล จากเดิมคือ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด ซึ่งทำหน้าที่มาตั้งแต่แรก เปลี่ยนเป็น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาทำหน้าที่แทน ชี้แจง "พลโท สรรเสริญ" ไม่ได้บกพร่อง แต่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะมอบหมายให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงในนามของสำนักนายกฯ และเรื่อง ครม.
ส่วน พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพียงตำแหน่งเดียว ถือว่า เป็นการแบ่งงานกันไป แต่ยังช่วยกันทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่ได้ออกคำสั่งใหม่ และ พลโทสรรเสริญ ก็ยังสามารถชี้แจงนักข่าวได้เหมือนเดิม
ยืนยันว่า พลโท สรรเสริญ ไม่ได้บกพร่องอะไร เพียงแต่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น เพราะ นายพุทธิพงษ์ เป็นคนพูดภาษาง่ายๆ บางทีทหารพูดภาษาเป็นทางการไป โดยเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ทั้งนี้ช่วงหลังจะเห็นได้ว่า ช่วงหลังตนอารมณ์เย็นขึ้น เมื่อก่อนเปิดดูโซเชียลโมโห แต่เดี๋ยวนี้ไม่โมโหแล้ว
"พุทธิพงศ์"แจงไม่ได้รู้ข่าวนั่งโฆษกรัฐบาลล่วงหน้า เตรียมปรับแผนสื่อสาร
ด้าน นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนเองปฏิบัติหน้าที่เป็นโฆษกรัฐบาล ส่วนพลเอก สรรเสริญ เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่เท่าที่ทำได้ในขณะนี้ไปก่อนระหว่างรอเปลี่ยนถ่ายตำแหน่ง ขณะนี้ตนเองจะควบ 2 ตำแหน่งทั้งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ โฆษกของรัฐบาล แล ะยืนยันว่าไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า เพราะตนก็เพิ่งทราบหลังนายกรัฐมนตรีแถลงข่าว
โดยจะมีการปรับแผนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบในหลายมิติ ทั้งสื่อโซเชียล พร้อมทั้งจะมีการปรับแผนการสื่อสารและเสริมทีมเข้ามาช่วย และปฏิเสธว่าไม่ใช่เป็นการปรับโฉมของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง
"พล.ท.สรรเสริญ"ยืนยันพร้อมทำงานทุกตำแหน่ง
ขณะที่ เมื่อวานนี้ พลโท สรรเสริญ ยังคงมาแถลงข่าวผลประชุมครม.เป็นปกติ ซึ่งถือว่า เป็นการแถลงผลประชุมครม.ครั้งสุดท้าย
โดยพลโทสรรเสริญ กล่าวว่า หลังจากที่นายกฯมีคำสั่งดังกล่าว ทำให้ตนจะทำหน้าที่เพียงตำแหน่งเดียว คือ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องรอระเบียบขั้นตอนของการโอนย้ายจากข้าราชการทหารมาเป็นข้าราชการพลเรือนให้เรียบร้อยก่อน เมื่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตน และนายกฯ ตกลงใจเลือกสิ่งใดให้แล้ว ย่อมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้บังคับบัญชาให้ความไว้วางใจ ตนก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง อยู่ตรงไหนก็ยังทำงานได้