ทีมแพทย์โรงพยาบาลสังขละบุรีใช้เส้นทางในประเทศเมียนมา เดินทางเข้าไปรับผู้ป่วยชายวัย 78 ปี ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี เรียกร้องกรมอุทยานฯ ปรับปรุงเส้นทางในพื้นที่ให้ใช้ได้ทั้งปี เพื่อการดูแลประชาชนยามเจ็บป่วย

เจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพโรงพยาบาลสังขละบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางโดยใช้รถยนต์เข้าไปรับ นายคงศักดิ์ พนาอุดม อายุ 78 ปี ชาวบ้านจะแก ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ จนมีอาการปากเบี้ยว ลิ้นแข็งพูดไม่มีเสียง ร่างกายด้านขวาเริ่มมีอาการไม่ตอบสนอง

โดยการเดินทางครั้งนี้ ได้รับการช่วยเหลือ ขอใช้เส้นทางประเทศเมียนมา จากหน่วยกู้ชีพพญาตองซู ของเมียนมา ที่คอยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ ร่วมภารกิจ

โดยทีมกู้ชีพโรงพยาบาลสังขละบุรี ใช้เส้นทางบ้านพระเจดีย์สามองค์ เข้าประเทศเมียนมา ผ่านอำเภอพญาตองซู บ้านแม่กะสะ ท่ามกลางเส้นทางที่ยากลำบาก เนื่องจากมีฝน ถนนลื่น ต้องข้ามลำธารและขึ้นเขาลงเขา

จนเมื่อทั้ง 2 ทีมเจอกัน เจ้าหน้าที่ได้ให้การรักษาเบื้องต้น ตรวจสัญญาณชีพ และให้น้ำเกลือ เนื่องจากการเดินทางต้องใช้เวลานาน ก่อนนำผู้ป่วยขึ้นรถกู้ชีพของโรงพยาบาลเดินทางกลับ และผู้ป่วยเดินทางถึงโรงพยาบาลด้วยความปลอดภัย

นายแพทย์กฏษดา วุฑธากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการดูแลสุขภาพ และการเข้าถึงสิทธิในการรักษาของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล เช่น พื้นที่ตำบลไล่โว่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นอุปสรรคสำคัญในงานบริการด้านสุขภาพของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก และไม่อาจทำได้ในช่วงฤดูฝน

ที่ผ่านมา โรงพยาบาลต้องสูญเสียงบประมาณ ในการซ่อมแซมรถยนต์เกือบทุกครั้ง ที่เข้าทำงานในพื้นที่ ปัจจุบันการเข้ารับผู้ป่วยในแต่ละครั้ง ต้องใช้รถ และคน จำนวนมาก ที่สำคัญต้องอาศัยเส้นทางของประเทศเมียนมา

ทั้งนี้ หากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมอุทยานฯ พิจารณาปรับปรุงเส้นทางที่มีในปัจจุบัน ให้สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากเส้นทางในประเทศ มีระยะทางที่ใกล้กว่า ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า 

ทีมแพทย์โรงพยาบาลสังขละบุรี เร่งนำตัวคนป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ออกจากป่า