เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามบุกจับสองผัว-เมีย เจ้าของเต็นท์รถ หลังก่อเหตุหลอกเอารถผู้เสียหายไปขาย ก่อนเชิดหนี แล้วนำเงินไปเล่นการพนัน
วันที่ 30 ต.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป อำนวยการ. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป., พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม
นายธรรมรัตน์ ทองศรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215/97 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 4 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 512/2561 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ข้อหา "ยักยอกทรัพย์" และน.ส.สมบัติ จิตศรัทธา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.8 ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ 4/2561 ลงวันที่ 4 มกราคม 2561
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายธรรมรัตน์ และน.ส.สมบัติ ได้ประกอบธุรกิจ เต็นท์รถยนต์ รับซื้อขายรถยนต์มือสอง มาประมาณ 10 ปี โดยนายธรรมรัตน์ จะทำทีตีราคารถยนต์แล้วออกอุบายกับลูกค้าที่นำรถยนต์มาขายที่เต้นท์รถของตน ว่าสามารถขายรถยนต์ได้ราคาสูงกว่าเต็นท์อื่นๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. นายธรรมรัตน์ พร้อม น.ส.สมบัติ ได้รับรถยนต์จากผู้เสียหายคนหนึ่งพร้อมออกอุบายว่า จะนำไปตีราคาและอาสาจะนำไปขายต่อให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ส่งมอบรถยนต์ให้ไป จากนั้นเมื่อขายรถยนต์ได้แล้ว กลับไม่นำเงินมาให้ผู้เสียหายและร่วมกันเชิดเอาเงินที่ได้จากการขายรถยนต์คันดังกล่าวไป
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้พยายามเข้าจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นายธรรมรัตน์ และนางสาวสมบัติ ไหวตัวทัน ขับรถหนีฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตารวจ ชนไม้กั้นทางเข้าออกหมู่บ้านแห่งหนึ่งหลบหนีไปได้ กระทั่งล่าสุดชุดจับกุมสืบทราบว่า นายธรรมรัตน์ หลบหนีมากบดานที่ บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านสีวลี 2 บ้านเลขที่ 578 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นและจับกุมได้ดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายธรรมรัตน์ ยังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดธัญบุรี อีก 2 คดี ข้อหา "ฉ้อโกงผู้อื่น" และ "ยักยอกทรัพย์" ซึ่งจากการสอบสวนนายธรรมรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง แต่บางคดีก็ได้เข้าไปเจรากับผู้เสียหาย จนมีการถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วหลายคดีเช่นกัน โดยยอมรับว่านำเงินที่ได้ครั้งล่าสุดจำนวน 90,000 บาท ไปเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้านหมดแล้ว เบื้องต้นจึงส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน พร้อมทั้ง แจ้งให้พนักงานสอบสวน ที่รับผิดชอบในหมายจับอื่นๆ ทราบ เพื่อทำการอายัด ตัวนายธรรมรัตน์ ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังมีการขยายผลจึงทราบว่า น.ส.สมบัติ ผู้ต้องหาอีกคนได้หลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดนครนายก จึงได้ติดตามไปจับกุมตัวได้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยการสอบสวน น.ส.สมบัติ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายธรรมรัตน์ ก่อเหตุเอารถของผู้เสียหายไปขาย แล้วเชิดเงินเอาไปเล่นการพนันที่ ประเทศเพื่อนบ้านจริง เบื้องต้นจึงนำตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป