"นายจาตุรนต์ ฉายแสง" ระบุ คสช.เตรียมปลดล็อกพรรคการเมือง วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ถือว่าช้าไป ทำให้พรรคการเมือง เสียโอกาสหลายอย่าง ส่วนตัวเชื่อการจะปลดล็อก ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมจะปลดล็อกพรรคการเมืองในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ว่า แม้จะปลดล็อกจริง แต่ก็ถือว่าช้าไปมาก เพราะขณะนี้ควรให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้เต็มที่แล้ว ไม่ใช่การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การไปรับฟังปัญหาจากประชาชน ก็ยังถูกมองว่าเป็นการขัดคำสั่ง คสช. ทั้งที่เป็นกิจกรรมพื้นฐานที่พรรคการเมืองทำได้
คสช.จึงควรเปิดโอกาสให้ประชาชนเสนอแนวคิดต่อพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคได้นำไปทำเป็นนโยบายได้ ไม่เช่นนั้นกระบวนการต่างๆ ก็เสียโอกาสไปทั้งหมด
ทั้งนี้นายจาตุรนต์ มองว่า การจะปลดล็อกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐ หากพรรคยังไม่พร้อม คสช.ก็จะไม่ให้พรรคการเมืองสื่อสารกับประชาชน เพราะกลัวพรรคอื่นได้กระแสนำไปก่อน
และจะปลดล็อกเมื่อพรรคพลังประชารัฐพร้อมแล้ว ไม่ใช่การปลคล็อกที่คำนึงถึงประชาชน และ 3 เดือนที่เหลือ ก็ไม่มีใครแน่ใจว่าการปลดล็อกจะมีมากน้อยแค่ไหน จึงสงสัยว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอาจไม่เสรีและเป็นธรรม
ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่ดี ที่ คสช. จะปลดล็อกทางการเมือง ให้พรรคการเมืองได้ปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยไม่ต้องคอยวิตกกังวลว่าสิ่งที่พรรคการเมือง หรือ นักการเมืองปฏิบัตินั้น จะผิดคำสั่ง คสช.
เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเมื่อยังไม่มีการปลดล็อก พรรคการเมืองต้องทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างสุ่มเสี่ยง อาจจะถูกตีความว่าทำผิดกฎหมาย และ ทำผิดคำสั่ง คสช. ได้ตลอดเวลา
การที่ คสช. ปลดล็อก จะช่วยทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติโดยรวมด้วย
นายองอาจ ยังกล่าวว่า สิ่งที่จะตามมาหลังปลดล็อก ก็คือการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ถือเป็นองค์กรอิสระ ที่มีส่วนอย่างสำคัญที่จะทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม
จึงขอฝากให้กกต. ใช้อำนาจหน้าที่ด้วยความอิสระ เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อให้การเลือกตั้งได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆตามมาในภายหลัง