ประธาน กกต. ชี้แจง การแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยเกือบทั้งหมดแล้ว เตรียมส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ยืนยันไม่ส่งผลทำให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปแน่นอน ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย มีการตั้งพรรคสำรองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง นั้นไม่ผิด เพราะถือว่าเป็นเทคนิคของแต่ละพรรค
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งล่าช้าไปจากกรอบเวลาที่กำหนดไว้ จนกลายหลายฝ่ายเกรงว่า อาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปว่า ขณะนี้การแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 เขต (จากเดิม 375 เขต) แต่ละจังหวัดลงตัวหมดแล้ว และเสร็จเกือบเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนจะส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แต่สาเหตุที่ล่าช้า เพราะตนต้องผ่าตัดดวงตาทั้งสองข้าง ไม่ได้มีเหตุปัจจัยอื่น คาดว่า 1-2 วันคงส่งให้ประกาศเขตเลือกตั้งได้ ยืนยันว่า เรื่องนี้ คงไม่ใช่ปัจจัยทำให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป
นายอิทธิพล กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ ยังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เลื่อนการเลือกตั้ง วันเลือกตั้ง ยังคงเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ตามเดิม ยังไม่คิดว่าจะมีการเลื่อนแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งหลังจากกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับวันที่ 11 ธันวาคม ขั้นตอนต่อไปจะมีการออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส.ต่อไปตามขั้นตอน
โดย กกต. ยินดีเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย และต่างชาติ สามารถส่งคณะผู้แทนมาสังเกตการณ์เลือกตั้งได้อย่างเต็มที่
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกระแสข่าวสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า กกต. พร้อมตรวจสอบทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องไหนถึงขั้นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน
การตรวจสอบต้องดูพฤติการณ์ว่า เข้าข่ายมีการครอบงำพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและการรวบรวมหลักฐานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน ส่วนกรณีที่หลายฝ่าย ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยมีการตั้งพรรคสำรองส่งผู้สมัคร ลงเลือกตั้ง ก่อนจะมารวมคะแนนกันในภายหลังนั้น เลขาธิการ กกต. บอกว่า ไม่ผิด เพราะเป็นเทคนิคของแต่ละพรรค แต่ต้องไม่เข้าข่ายพรรคการเมืองไปครอบงำพรรคอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายทันที
ขณะที่ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะมีสมาชิกพรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางไปพบนายทักษิณ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสมาชิกคนใด ไปพบนายทักษิณ แต่หากจะไปพบ ก็เป็นการไปเยี่ยมคนที่นับถือ ทานข้าว ถามสารทุกข์สุกดิบกัน เป็นเรื่องปกติตามวัฒนธรรมไทย เพราะการไปนั่งทานข้าว ดื่มไวน์ คงไม่ได้มานั่งประชุมสั่งการอะไร เพราะตนก็เคยไปทานข้าว และดื่มไวน์กับนายทักษิณ แต่นายทักษิณ ก็ไม่ได้สั่งการอะไร
มีรายงานว่า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะพำนักอยู่ในประเทศสิงคโปร์ 1 สัปดาห์ จากนั้นอดีตนายกฯทั้งสองคน จะเดินทางไปประเทศจีนต่อไป