ศาลอุทธรณ์ ปรับแก้โทษ จำเลยที่ 1 , 2 และ จำเลยที่ 13 ในคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ปรับเงินคนละ 5 แสนบาท ส่วนจำเลย อีก 10 คน ศาลยกฟ้องตามศาลชั้นต้น

เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ คงเจริญ อายุ 58 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด พร้อมพวกรวม 13 คน ในความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ฟอกเงิน , ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับค่าบริการ และข้อหาอื่นๆอีกหลายข้อหา

หลังบริษัท ฝูอัน ทราเวล นำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาโดยไม่มีค่าบริการ หรือ ทัวร์ศูนย์เหรียญ  และให้ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด นำรถบัส 2,500 คัน มารับนักท่องเที่ยวฟรี พร้อมกำหนดแผนการเดินทางท่องเที่ยวให้กับมัคคุเทศน์ นำนักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าที่ร้านในเครือเดียวกับบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต ซึ่งมีสินค้าแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า เกิดการขูดรีดนักท่องเที่ยว ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศเสียหาย

เหตุการณ์เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2559 นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลการโอนเงินระหว่างบริษัทจำนวนมาก รวมถึงอำพรางแบ่งปันผลประโยชน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 98 ล้านบาท โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด แต่ต่อมาพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นโจทก์ ได้ยื่นอุทธรณ์

โดยศาลอุทธรณ์ พิจารณาพยานและหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องในความผิดฐานอั้งยี่ และฟอกเงิน เนื่องจากพยานโจทก์ที่เป็นข้าราชการ มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้ให้ความเห็น แตกต่างกับพยานโจทก์ที่เป็นตำรวจ ศาลจึงให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น

ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว และ มัคคุเทศก์ ศาลเห็นว่า มีการขายสินค้าราคาสูง เป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และ มีความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาแก้ ให้ปรับจำเลยที่ 1 , 2 และ จำเลยที่ 13 คนละ 5 แสนบาท