หญิงโพสต์เตือนภัยถูกคนร้ายป้ายยา ขณะออกไปซื้อของ ก่อนจะไม่รู้สึกตัว มารู้ตัวอีกที สร้อยคอทองคำของตนเองน้ำหนัก 2 สลึง และสร้อยคอทองคำของลูกสาวน้ำหนัก 1 สลึง ก็หายไปแล้ว
กล้องวงจรปิดของเทศบาลนครปากเกร็ด สามารถบันทึกภาพ ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งกำลังอุ้มลูกสาว ยืนเลือกซื้อรองเท้าจากร้านข้างทาง ซึ่งข้างๆกันมีหญิงรูปร่างท้วม ผมยาว สวมแว่นตากันแดด สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขาห้าส่วนสีดำ กำลังเลือกซื้อรองเท้าเช่นกัน ห่างกันประมาณ 1 เมตร พบหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมผ้าปิดปากยืดกอดอกอยู่
จากนั้นกล้องตัวที่ 2 ของเทศบาลนครปากเกร็ด ภายในซอยวัดสนามเหนือ บันทึกภาพคนร้ายทั้ง 2 และผู้เสียหายซึ่งอุ้มลูกเดินตามได้เมื่อเวลา 11.03 น. คนร้ายทั้งสองเดินนำหน้าใช้มือปิดบังใบหน้า โดยมีผู้เสียหายอุ้มลูกเดินตามเข้าไปภายในซอยดังกล่าว ซึ่งเป็นทางเข้าที่จอดรถห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง
กล้องตัวที่ 3 เป็นกล้องของห้างค้าปลีกดังกล่าว สามารถบันทึกภาพคนร้าย และผู้สียหายที่เดินตามกันได้เมื่อเวลา 11.06 น. โดยเดินผ่านประตูด้านหลังห้างดังกล่าว เพื่อไปลานจอดรถ ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เตือนภัย โดยระบุว่า เวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 15 พษฤจิกายน 2561 ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นหญิง 2 คนทำทีมาพูดคุยด้วย และเดินตาม ที่บริเวณร้านขายรองเท้าข้างทาง ใกล้ตลาดศรีปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
จากนั้นผู้เสียหายก็ไม่รู้สึกตัว ไม่ทราบว่า เดินตามคนร้ายทั้งคนไปที่ไหนบ้าง มารู้สึกตัวอีกครั้ง ผู้เสียหายและลูกสาวอายุ 1 ขวบ ไปยืนอยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังห้างค้าปลีกแห่หนึ่ง ในซอยวัดสนามเหนือ และพบว่า สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง และน้ำหนัก 1 สลึง ของลูกได้หายไปจากคอ จึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด และตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากจุดที่ผู้เสียหายยืนซื้อรองเท้า จนทราบว่า ทั้ง 2 คนเป็นคนร้าย
ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุ ได้ออกมาซื้อของโดยอุ้มลูกสาวมาด้วย หลังเสร็จธุระ กำลังจะกลับบ้าน ที่อยู่ในซอยวัดกู้ จึงได้เดินข้ามถนน เพื่อไปขึ้นจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อมาถึงร้านรองเท้า จึงได้เลือกดูเพื่อจะซื้อ แต่ไม่มีขนาดที่ไม่พอดีกับเท้า
ซึ่งคนร้ายที่เลือกรองเท้า ได้พูดกับตนเองว่า ไม่รู้จะใส่ได้ไหม และตนเองก็บอกไปว่า สวยดี แต่ระหว่างหันหลัง เพื่อจะกลับบ้าน มีคนมาสะกิดที่ด้านหลัง ตนเองจึงได้หันไปมอง จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ รู้ตัวอีกทีสร้อยคอทองคำของตนเองน้ำหนัก 2 สลึง และสร้อยคอทองคำของลูกสาวน้ำหนัก 1 สลึง ก็หายไปแล้ว
ทั้งนี้ ตำรวจจะได้ตรวจสอบภสพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งหาเบาะแสคนร้าย เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป