ตำรวจบุกจับคนร้าย ที่นำอาวุธปืนสงคราม ยัดท่อพีวีซี ซุกในพงหญ้า กลางไร่มันสำปะหลังที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้แล้ว สอบสวน อ้างน้องชายเอามาฝากไว้ กลัวความผิดเลยเอาไปซ่อน ขณะเดียวกัน เตรียมไล่ล่าตัวน้องชาย หลังพบว่า มีประวัติเคยต้องคดีพยายามฆ่า และ คดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน และ อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล

วานนี้ (27 พ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา  พลตำรวจตรี ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ หน่วยทหารด้านความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ครอบครองอาวุธปืนสงคราม จำนวน 3 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 964 นัด

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่พบอาวุธดังกล่าวถูกนำมาซุกซ่อนไว้ริมบ่อเก็บน้ำกลางไร่มันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่สืบสวน จนทราบว่า เจ้าของอาวุธปืนสงคราม และ นำมาซุกซ่อนไว้ คือ นายสมมาท เมืองแก้ว อายุ 42 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ห่างจากจุดที่นำท่อ พีวีซี บรรจุอาวุธปืนสงครามมาซุกไว้เพียงประมาณ 100 เมตร จึงได้ขอหมายจับจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา และ ติดตามไปจับกุมตัวได้ ขณะขับรถบรรทุกดิน อยู่ในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ

พลตำรวจตรี ธีรพล ระบุว่า หลังจากจับกุมตัวคนร้ายได้ เจ้าหน้าที่นำตัวมาตรวจค้นบ้าน พบอาวุธปืนเพิ่มเติมอีก ประกอบด้วย ปืนเล็กยาวบรรจุเอง แบบ 66 (ปืนเก่ายุคสงครามโลกครั้งที่ 1) จำนวน 1 กระบอก / ปืนยาวบีบีกัน 1 กระบอก / ดาบปลายปืน AK47 จำนวน 1 เล่ม และ กระสุนปืนอีกจำนวนหลายนัด

สอบสวน นายสมมาท รับสารภาพว่า เป็นผู้นำอาวุธปืน เอ็ม 16 ดัดแปลงแบบ M4A1 จำนวน 3 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 964 นัด ซองกระสุนจำนวน 4 ซอง ยัดใส่ท่อพีวีซีปิดหัวท้ายไปซุกซ่อนไว้เอง  เนื่องจากเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ จะบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักในช่วงที่กำลังมีการระดมกวาดล้าง

โดยอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก เป็นของน้องชายที่นำมาฝากให้เก็บไว้นานแล้ว เมื่อ 3-4 ปี ก่อน และ ไม่ทราบว่าอาวุธปืนทั้งหมด มีที่มาอย่างไร และ ยังไม่เคยนำไปใช้ในการก่อเหตุอะไรมาก่อน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัวไปชี้จุด และ ตั้งข้อกล่าวหาว่า "มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใช้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย" และ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม ให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวสอบถาม ว่า อาวุธปืนจำนวนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมการนำมาใช้ในช่วงของการจัดการเลือกตั้งทางการเมือง ในปีหน้า (2562) หรือไม่  พลตำรวจตรี ธีรพล ยืนยันว่า อาวุธปืนจำนวนดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางการเมือง โดยอาวุธปืนสงครามทั้ง 3 กระบอก สามารถใช้งานได้จริงเพียง 1 กระบอก ส่วนอีก 2 กระบอก อยู่ในสภาพชำรุดเนื่องจากการเก็บรักษาไม่ดีจึงทำให้กลไกเสียหาย

หลังจากนี้ จะส่งของกลางทั้งหมดไปทำการตรวจสอบยังสรรพาวุธตำรวจ เพื่อหาแหล่งต้นตอที่มาของอาวุธปืน รวมถึงตรวจเก็บดีเอ็นเอไว้  ส่วนน้องชาย ของผู้ต้องหานั้น ขณะนี้ขอสงวนนามไว้ก่อน และ ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว โดยพบว่า มีประวัติเคยต้องคดีพยายามฆ่า และ คดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล

ตำรวจจับเจ้าของอาวุธปืนสงคราม 3 กระบอก ยัดท่อซุกไร่มันได้แล้ว