ตำรวจบุรีรัมย์รวบตัวน้าชายและเพื่อนบ้านที่ใช้มีดจี้บังคับข่มขืนหลานสาวป่วยออทิสติกวัย 13 แล้ว โดยน้าชายยังปฏิเสธ แต่เพื่อนบ้านยอมสารภาพ และให้การพาดพิง
ชายวัย 37 ปี ถูกตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมในคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ป่วยออทิสติก เหตุเกิดกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้ ตำรวจได้จับตัวน้าชายเด็กหญิงวัย 25 ปีไว้ด้วย
แต่การสอบสวนเบื้องต้น น้าชายเด็กยังปฏิเสธ แต่เพื่อนบ้านที่เป็นชายวัย 37 ปีที่เคยลงมือก่อเหตุ ยอมรับว่า ข่มขืนทั้งหมด 3 ครั้ง อ้างเพราะเมา จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และบอกว่า น้าชายของเด็ก เคยเล่าให้ตนฟังว่า เคยก่อเหตุเช่นกัน
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวชายวัย 37 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และคุมตัวฝ่ายน้าชายไว้ดำเนินคดี เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน
จากการสอบถามเด็กหญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ครั้งแรกที่ถูกน้าชายข่มขืน คือช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยวันเกิดเหต น้าอยู่บ้านคนเดียว พ่อไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนยาย พี่ชาย และพี่สาว ย้ายหนีไปอยู่บ้านญาติอีกหมู่บ้านหนึ่ง
เนื่องจากน้าชายจะทำร้าย เพราะติดยาเสพติดชอบอาละวาด และขณะที่ตนกลับมาเอารองเท้าที่บ้าน น้าชายได้ใช้มีดจี้บังคับข่มขืน ด้วยความกลัว จึงไม่กล้าขัดขืน และไม่กล้าไปบอกใคร
จนช่วงกลางเดือนตุลาคม ตนปั่นจักรยานไปเล่นในหมู่บ้าน ขณะผ่านหน้าบ้านเพื่อนบ้านวัย 37 ปี ก็ออกมายืนขวางรถบังคับข่มขืน โดยให้เงิน 200 บาท ตนไม่กล้านำเรื่องไปบอกใคร เพราะกลัวจะถูกทำร้าย กระทั่งพี่สาวมาเค้นถาม เมื่อสองวันก่อน จึงตัดสินใจบอกความจริง
ขณะที่คนในครอบครัวเด็ก บอกว่า เสียใจมาก ที่ผู้ก่อเหตุเป็นคนในครอบครัว และเพื่อนบ้าน แต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีถึงที่สุด