ผู้เสียหายจากการทำศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกดังย่านเมืองเอก เข้าแจ้งความตำรวจ ปคบ. เพิ่มเติม หลังหน้าอกอักเสบ-ติดเชื้อ จากการเข้าผ่าตัด
วันที่ 28 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ 2 ผู้เสียหายจากการเข้ารับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ที่คลินิกแห่งหนึ่้งใน จ.ปทุมธานี เดินทางเข้าร้องกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดแพทย์ หลังติดเชื้อจากการผ่าตัด
โดยล่าสุดในวันนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พูลสวัสดิ์ ผู้กำกับการ 4 บก. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ที่ทำการผ่าตัดและคลินิก
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อแจ้งความกับตำรวจหลังได้รับความเสียหายลักษณะคล้ายกัน ทั้งเรื่องแพทย์ที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมไม่ตรงกับที่โฆษณา รวมถึงแผลจากการผ่าตัดมีเลือดออกและมีน้ำหนองไหลออกมา แต่ทางแพทย์กลับอ้างว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตั้งแต่ที่พบว่าแผลไม่ปกติต้องเดินทางไป-กลับหลายครั้ง ทั้งไม่สามารถไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นได้ สุดท้ายผลจากการศัลยกรรมทำให้หน้าอกมีขนาดไม่เท่ากันกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักคลินิกผ่านการโฆษณาทางเฟซบุ๊ก อีกทั้งแพทย์ที่ทำมีความน่าเชื่อถือ และมีโปรโมชั่น จึงตัดสินใจวางเงินมัดจำ 20,000 บาท ก่อนวันผ่านตัดจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 20,000 บาท รวม 40,000 บาท ซึ่งในวันผ่าตัดคลินิกได้นัดให้ไปทำศัลยกรรมที่คลินิกย่านเมืองเอกซึ่งอ้างว่าเป็นอีกสาขาหนึ่งของคลินิกชื่อดังย่านลาดพร้าว อีกทั้งแพทย์ที่ทำศัลยกรรมก็เป็นคนละคนกับที่เลือกไว้ และหากต้องการทำศัลยกรรมกับแพทย์ตามที่เลือกไว้ก็จะต้องเพิ่มเงินอีกเกือบเท่าตัว และหากเลือกไม่ใช้บริการก็จะไม่ได้รับเงินคืน ประกอบกับตนเองเป็นเจ้าของร้านสถานบันเทิง จำเป็นต้องรักษารูปร่าง จึงตัดสินใจทำ ทั้งนี้หลังการผ่าตัดและกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ก็พบว่าแผลมีอาการปวดบวม ถึงขั้นเริ่มมีหนองไหลออกมา จึงสอบถามไปทางคลินิก ก็บอกว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาให้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น กระทั่งทุกวันนี้ผ่านมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ปรากฏว่าแผลผ่าตัดยังมีรอยแผลเป็นสีแดง และผลการทำศัลกรรมยังทำให้ฐานหน้าอกไม่เท่ากันอีกด้วย
ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายที่อยู่ตามต่างจังหวัดหลายคน ซึ่งเคยทำศัลยกรรมกับคลินิกแห่งนี้ โดยยืนยันว่ามีนายหน้าไปโฆษณาชักชวน มีหลักฐานข้อความสนทนาที่ผู้เสียหายส่งมาให้ดู จึงเชื่อว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นขบวนการ ขณะที่ตนได้ตรวจสอบไปที่เฟซบุ๊กของคลินิกดังกล่าวพบว่ามีความเคลื่อนไหว เช่น การเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นสีดำ คล้ายเป็นการปกปิดอะไรบางอย่าง ทั้งนี้ขอให้ทางตำรวจออกหมายเรียกตัวบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้า มาสอบปากคำรวมถึงเชิญคลินิกย่านลาดพร้าวที่ถูกแอบอ้างชื่อมาให้ข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่าทั้ง 2 คลินิกมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ตอนนี้ต้องขอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน พร้อมประสานไปยังสาธารณะสุขประจำจังหวัด และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุวันได้ เบื้องต้นคาดว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ข้อหาโฆษณาเกินจริง ส่วนข้อหาอื่นๆ ยังรอการพิจารณาอยู่