ตำรวจคุมตัววัยรุ่นอายุ 18 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังตั้งใจทำร้ายยายติ๋มเสียชีวิต ล่าสุด ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนาเพิ่ม
ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น คุมตัวนายเบนซ์ อายุ 18 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด หลังทำร้ายนางวนิดา แพรนุ่น อายุ 60 ปี หรือยายติ๋มเสียชีวิต เพราะไม่พอใจที่ยายติ๋มกู้เงินจากนายทุน แล้วผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งยายของนายเบนซ์ไปค้ำประกันให้
ขณะที่ญาติทั้ง 2 ฝ่าย ต่างเปิดศึกชกต่อยกัน ทะเลาะกันเสียงดัง โดยแม่ของนายเบนซ์ ด่าทออีกฝ่าย ยืนยันว่า ลูกเป็นคนดี ไม่เคยทำอะไรเกินกว่าเหตุ ทุกคนปรักปรำลูกชายตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวออกไปทันที
สำหรับจุดแรกที่เจ้าหน้าที่คุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คือบริเวณปากซอยชุมชน ซึ่งเป็นจุดที่นายเบนซ์ตบหน้ายายติ๋ม ต่อมา คือ จุดที่ 2 ภายในซอยที่ยายติ๋มล้มลง และจุดสุดท้ายบริเวณหน้าบ้านของยายติ๋ม ที่นายเบนซ์ใช้เท้ากระทืบตามลำตัวยายติ๋มหลายครั้งจนหมดสติไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเบนซ์ ไปฝากขังผัดแรก ที่ศาลจังหวัดขอนแก่นทันที พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ด้านขณะที่นายนฤดล แพนุ่น อายุ 32 ปี ลูกชายของยายติ๋ม บอกว่า ตนและญาติพี่น้องดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว แต่ไม่พอใจการสอบสวน และการแจ้งข้อหา ที่แจ้งเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งๆที่แม่ของตนอาการสาหัสขนาดนี้ อยากให้สอบสวนเพิ่มเติม และต้องแจงข้อคลางแคลงใจของญาติ รวมถึงผลการชันสูตรคราบเลือดด้วย
ลูกชายยายติ๋ม บอกอีกว่า อยากให้ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหา เรื่องทองที่แม่ของตนใส่ติดตัวไป แล้วเกิดหายไปหลังวันที่เกิดเหตุด้วย ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา บอกว่า แม่ของตนกู้เงินและยายผู้ต้องหาเป็นคนค้ำประกันให้ ยอมรับเป็นเรื่องจริง แต่ทำไมต้องถึงขั้นทำร้ายแม่ของตนจนตายแบบนี้
พันตำรวจเอกจำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากที่ทำแผน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำร้ายยายติ๋ม โดยการใช้เท้ากระทืบ ถือว่า เป็นการกระทำที่จงใจ จึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาใหม่ จากเดิมแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เปลี่ยนเป็นข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขอให้ญาติสบายใจว่า ตำรวจไม่เข้าข้างคนผิด